Category ข่าววันนี้

กองทัพอากาศ

กองทัพอากาศ แจง F-16 บินผ่านพิธีลอยอังคารอดีต ผบ.ทอ. เทิดเกียรติผู้มีคุณูปการทัพฟ้า

กองทัพอากาศ แจงจากกรณี พรรคก้าวไกล แฉอดีต ผบ.ทอ. ใช้ F-16 บินไว้อาลัยพ่อตนเอง

เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (2 กุมภาพันธ์) ว่า อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ใช้เครื่องบินรุ่น F-16 (เอฟ-1) บินไว้อาลัยและก็ลอยอังคารพ่อของตนเอง ซึ่งก็คือ พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ที่เคยเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ ระหว่างปี 2526-2530

“ได้มีการจัดพิธีลอยอังคารขึ้น แล้วก็ใช้เครื่องบิน F-16 นะครับ สำหรับการบินเทิดเกียรตินะครับ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งก็คือบิดาของ พล.อ.อ.นภาเดช นะครับ” ร้อยโทธนเดช กล่าว

“นี่เป็นการใช้อากาศยานแบบ F-16 ครับ เพื่อประโยชน์ส่วนตนนะครับ ในภารกิจส่วนตัวโดยแน่ชัดนะครับ ซึ่งการใช้อากาศยานแบบ F-16 ครับ จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตกที่ 1. เป็น O/M Cost (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและซ่อมบำรุง) นะครับ 1 ชั่วโมงประมาณ 120,000 บาท นะครับ ซึ่งอันนี้ได้มีการใช้ F-16 จำนวน 2 ลำนะครับ เฉลี่ยค่าใช้จ่าย 2 ชั่วโมงอยู่ที่ 200,000 กว่าบาทนะครับ”

ว่าที่ผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล กล่าวถึง พล.อ.อ.นภาเดช อีกว่าเป็นคนเดียวกับที่เคยให้ความเห็น ต่อการบินรุกน้ำน่านฟ้าไทยของกองทัพเมียนมา เพื่อโจมตีกลุ่มต่อต้านรัฐประหารแล้วก็กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่

“พล.อ.อ.นภาเดช เป็นคนที่เคยพูดไว้ ในวันที่ทหารของพม่านะครับ บินลัดเข้ามาน่านฟ้าไทย ท่านเคยให้ข่าวว่า เหมือนเพื่อนมาลัดสนามหน้าบ้าน แต่กับพิธีลอยอังคารของบิดาท่าน F-16 กลับมาบินได้อย่างตรงเวลานะครับ”

ก้าวไกล แฉอดีต ผบทอ
ไม่คาดหวังฝีมือ รมว.กลาโหม

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่มาแถลงด้วยนั้น กล่าวเรียกร้องให้กองทัพอากาศชี้แจงประเด็นนี้ และยกตัวอย่างว่า แม้แต่ระดับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นบางที่ ก็ยังมีการจำคุกนายกเทศมนตรี ที่นำรถยนต์ของรัฐ มาใช้กับเรื่องส่วนตัว

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล รายนี้ กล่าวว่าตนไม่คาดหวัง ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งก็คือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแก้ปัญหาเรื่องนี้ เนื่องจากมั่นใจว่าไม่มีความสามารถและกำลังจะหมดวาระในไม่ช้า

“อาจจะไม่สามารถพึ่งอะไร หรือคาดหวังอะไร กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบันนี้แล้ว ที่กำลังจะหมดวาระ หมดอายุขัยลงไปแล้ว” นายพิจารณ์ กล่าว

นอกเหนือจากนั้น นายพิจารณ์ ยังกล่าวย้ำ จุดยืนของพรรคก้าวไกลอีกว่า จะเดินหน้าผลักดัน การปฏิรูปกองทัพ ด้วยการนำทหารออกมาจากการเมือง การลดขนาดกำลังพลและจำนวนนายพล การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร คืนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาล แล้วก็คืนที่ราชพัสดุ เพื่อใช้สำหรับสาธารณะ

กองทัพอากาศแจง F-16 บินผ่านพิธีลอยอังคารอดีต ผู้บัญชาการทหารอากาศ เทิดเกียรติผู้มีคุณูปการ ริเริ่มจัดหา F-16 เข้าประจำการทัพฟ้า หลังจบภารกิจบินลาดตระเวนตามวงรอบ

สืบเนื่องจากพิธีพระราชทานเพลิงศพ เมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อต่างๆ ถึงกรณีความผิดปกติ สำหรับในการใช้เครื่องบิน แบบ F-16 ของกองทัพอากาศนั้น กองทัพอากาศได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นการบินทดสอบ การปฏิบัติการร่วม ในภารกิจการบินลาดตระเวน และแจ้งเตือน ซึ่งการปฏิบัติภารกิจนี้ เป็นวงรอบการฝึก เพื่อดำรงความพร้อม สำหรับในการปฏิบัติภารกิจการป้องกันประเทศ เพื่อบูรณาการระดับความสามารถ สำหรับในการปฏิบัติการตามแผนคุ้มครองป้องกันประเทศ

ประพันธ์ ธูปะเตมีย์
ซึ่งในวันดังกล่าว เมื่อสิ้นสุดการปฏิบัติภารกิจ การบินทดสอบการปฏิบัติการร่วมแล้ว กองทัพอากาศ แล้วได้นำเครื่องบินในหมู่บินดังกล่าว บินผ่านเพื่อเทิดทูนเกียรติ

ในพิธีลอยอังคารของ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณูปการ สำหรับการพัฒนาขีดความสามารถกำลังทางอากาศ

โดยท่านเป็นผู้ริเริ่มในการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์สมรรถนะสูงแบบ F-16 เข้าประจำการในกองทัพอากาศไทย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มแรกของการพัฒนากองทัพอากาศ ให้มีความทันสมัย พร้อมรองรับความท้าทายและก็ภัยคุกคามในตอนนั้น ที่เป็นยุคสงครามเย็น โดยการบินดังกล่าว เป็นการกระทำพิธีให้สมเกียรติ สืบเนื่องมาจาก พิธีพระราชทานเพลิงศพของท่าน

ทั้งนี้ กองทัพอากาศตั้งใจจริงในการพัฒนากองทัพอากาศ ตามวิสัยทัศน์ของอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ เพื่อดำรงไว้ซึ่งขีดความสามารถของกองทัพอากาศสืบไป

พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ คนที่ 10 ดำรงตำแหน่งตอนปี 2525-2530 อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 แล้วก็อดีตสมาชิกวุฒิสภาแบบแต่งตั้ง

รับราชการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2487 ในตำแหน่งนักเรียนนายร้อยทหารบก ดำรงตำแหน่งที่สำคัญได้แก่ นักบินประจำกอง, ครูการบิน, ผู้บังคับฝูงฝึกขั้นปลาย กองฝึก โรงเรียนการบิน, รองผู้บังคับกอง กองฝึก โรงเรียนการบิน, อาจารย์ฝ่ายวิชาการ กองวิชาการ โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ, ผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา, รองผู้อำนวยการกองการศึกษา โรงเรียนเสนาธิการททหารอากาศ

ผู้บังคับการกองบิน 7, เจ้ากรมการเงินทหารอากาศ, เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศ, ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศ ฝ่ายยุทธบริการ, รองเสนาธิการทหารอากาศ, รองผู้บัญชาการทหารอากาศ, ผู้บัญชาการทหารอากาศและ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด

พล.อ.อ. ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ถึงแก่อนิจกรรมเนื่องจากว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ณ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ เมื่อวันอังคารที่ 3 ธ.ค. พุทธศักราช 2562 สิริอายุรวม 92 ปี

นอท กองสลากพลัส จบเห่

นอท กองสลากพลัส ประกาศคนถูกรางวัล "DSIจะไม่โทรไปหา" แจ้งช่องทางตามเงื่อนไขใหม่

นอท กองสลากพลัส แจ้ง คนถูกรางวัล DSI จะไม่โทรไปหา ขอประชาชนติดตามเงื่อนไขและก็รูปแบบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษเท่านั้น ย้ำระวังมิจฉาชีพ

จากกรณี กองสลากพลัส แจ้งว่า งวด 1 ก.พ. 66 หลังจากประกาศผลรางวัลเสร็จเรียบร้อย จะคัดแยกลอตเตอรี่ใบจริงที่ถูกรางวัล ส่งให้ทาง DSI ดำเนินการต่อ แล้วหลังจากนั้น DSI จะติดต่อลูกค้า เพื่อส่งลอตเตอรี่ใบจริงที่ถูกรางวัล แล้วก็ลูกค้าจะต้องนำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินรางวัลด้วยตัวเอง เพราะเหตุว่ากองสลากพลัสถูกระงับบัญชีบริษัททั้งหมด ไม่สามารถที่จะทำธุรกรรมทางการเงินได้

ล่าสุด วันที่ 1 ก.พ. 66 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท กองสลากพลัส ออกมาแจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า พรุ่งนี้คนถูกรางวัล DSI จะไม่โทรไปหา พร้อมระบุรายละเอียดว่า พรุ่งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะประกาศเงื่อนไขและก็รูปแบบ ในการรับเงินรางวัล ของผู้ถูกรางวัลที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจาก กองสลากพลัสให้ประชาชนทราบโดยพร้อมกัน

โดยวิธีการที่กำหนดนั้น จะเป็นการดำเนินการร่วมกับ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะไม่มีการโทรไปหาประชาชนจาก DSI ในเรื่องเกี่ยวกับการถูกรางวัลใดๆ ขอประชาชนติดตามเงื่อนไขและก็รูปแบบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เท่านั้น ย้ำว่าจะไม่มี DSI โทรหาผู้ใด ระวังมิจฉาชีพนะครับ

คนถูกรางวัล DSI
“นอท กองสลากพลัส” ยันไม่เคยฟอกเงินให้ใคร พร้อมยุติการขายชั่วคราว จนกว่าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้

”นอท พันธ์ธวัช” เคลื่อนไหวแล้ว หลังมีข่าวโดน DSI แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ทั้งฟอกเงินแล้วก็จัดให้มีการเล่นพนัน เจ้าตัวยันไม่เคยฟอกเงิน พร้อมยุติการขายลอตเตอรี่ จนกว่าจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้

จากกรณีแหล่งข่าวในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท ผู้บริหาร บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ เจ้าของแพลตฟอร์ม “กองสลากพลัส” ได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาใน 2 คดี เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และจัดให้มีการเล่นการพนัน ตามหมายเรียกของดีเอสไอที่ออกไปก่อนหน้านี้ โดยวันนี้นายพันธ์ธวัชได้เดินทางมาด้วยตนเอง และได้รับการประกันตัวออกไป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 31 มกราคม เฟซบุ๊กของ “ซีอีโอกองสลากพลัส” ออกมาคลื่อนไหว โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความยืนยันความบริสุทธิ์ ยันไม่ได้มีการฟอกเงินตามที่เป็นข่าว โดยได้ระบุข้อความสั้นๆ ว่า

“เนื่องจากเป็นคดีที่กระทบต่อความเชื่อมั่น ผมขอเวลาในการพิสูจน์ตัวเอง และผมยืนยันว่าผมไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ผมไม่เคยฟอกเงินให้ใคร”

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้ารับทราบ 2 ข้อกล่าวหาของ “นอท กองสลากพลัส” จาก DSI ว่า ปัจจุบันนี้จะทำการยุติการขายลอตเตอรี่ จนกว่าตนเองจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้

“นอท กองสลากพลัส” จบเห่!?…เจอสองข้อหาหนัก ฟอกเงิน-จัดให้เล่นการพนัน..แพลตฟอร์มหวยออนไลน์ มาไว ไปไว

ในที่สุด “นอท” พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซีอีโอ กองสลากพลัส แพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์ชื่อดัง ก็ต้องคดีเพิ่มอีกสองคดีแบบจุกๆ หนักๆ ทั้ง “ฟอกเงิน” และก็ “จัดให้มีการเล่นพนัน”

หวยงวดนี้ที่ “นอท” ถูก มาจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ขยายผลจากการจับกุมแก๊ง “บัญชีม้า” ก่อนหน้านี้ แล้วพบเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ สืบไปสาวมาก็เจอว่าเส้นทางการเงินสีเทาๆ เหล่านั้นตรงรี่มาที่บัญชีของ “นอท”

ขณะที่เจ้าตัวไม่ยอมรับทุกข้อกล่าวหา ซึ่งมั่นใจ 100% ไม่เคยฟอกเงินให้ใคร และจะต่อสู้คดีในชั้นศาล

นอท พันธ์ธวัช
“นอท” ยังยืนยันตัวเองไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่ว่าเมื่ออยู่ภายใต้กฎหมายไทยก็จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

พร้อมๆ กันนี้ “นอท” ได้ประกาศปิดแพลตฟอร์มของตัวเอง ยุติการจำหน่ายลอตเตอรี่ จนกว่าจะมีคำตัดสิน ประหนึ่งเพื่อแสดงสปิริตหล่อๆ ทั้งๆ ที่จริงถ้าเกิด “นอท” ไม่แสดงสปิริต “ดีเอสไอ” ก็แจ้งไปยังกระทรวงดิจิทัลฯ ให้ปิดแพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์กองสลากพลัสอยู่แล้ว

ถึงแม้ว่าทางกองสลากพลัสจะถูกปิดลง ตามประสาคนชอบพูดโอ่ ซีอีโอ กองสลากพลัส ยังบอกว่า ตนเองมีโครงการอื่นๆ ที่จะทำอีกเยอะ ต่อยอดจากแบรนด์กองสลากพลัสที่โหมประโคมโฆษณา จนติดหูติดตาชาวบ้าน

เรียกว่า ไม่สะทกสะท้านสะเทือนใดๆ และก็จะไม่ถอดใจเพียงเท่านี้!!

เรื่องราวเฉพาะหน้าต่อจากนี้ ก็เป็นเรื่องของ “นักเสี่ยงโชค” ที่กดซื้อหวยจากกองสลากพลัสไปแล้ว มีคำถามว่าจะทำอย่างไรถ้าถูกรางวัลขึ้นมา “นอท” ก็โบ้ยไปที่ ดีเอสไอ เพราะเหตุว่าลอตเตอรี่ถูกอายัด คนที่ถูกหวย ดีเอสไอ จะติดต่อส่งลอตเตอรี่ให้ถึงมือภายใน 7 วัน แล้วลูกค้านำไปขึ้นเงินด้วยตัวเองได้ตามปกติ แต่ว่าถ้าเกิดหวยหาย ก็ต้องทวงที่ดีเอสไอ เช่นกัน

ดูๆ แล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในประเด็นนี้ แต่ว่าบรรดาคอหวย ที่ไม่ได้ติดตามข่าวคราว ก็อาจจะตกใจเล็กน้อย ที่หากดีเอสไอ โทร.หา เพราะว่า บ่อยครั้งที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ก่อกวนเราๆท่านๆ มักอ้างตัวเป็นดีเอสไอด้วยนี่สิ ก็ขอโปรดตรวจสอบกันให้ดีๆ ก็แล้วกัน

ถึงตรงนี้ก็สอบถามกันมาว่า “กองสลากพลัส” จะกลับมาได้หรือไม่ เส้นทางของ “นอท พันธ์ธวัช” จะจบเห่ลงเท่านี้หรือเปล่า? ก็จำเป็นต้องพูดว่า ก่อนหน้านี้ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงดิจิทัลฯ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และก็สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมหลักฐานในการปิดกั้นแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ไม่ถูกกฎหมายรวมทั้งกรณีแพลตฟอร์มของกองสลากพลัสเอาไว้หมดแล้ว ทั้งเรื่อง ฟอกเงิน ขายสลากเกินราคา จัดให้เล่นการพนัน แล้วก็โฆษณาเกินจริง ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ยื่นเรื่องไปที่ศาล ขอปิดกั้นแพลตฟอร์ม กองสลากพลัสแบบถาวร ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล

นอกจากกองสลากพลัส ยังมีข้อมูลว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปีที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ในการขอปิดกั้นแพลตฟอร์มอื่น ที่เข้าข่ายจำหน่ายสลากอย่างผิดกฎหมาย ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้แจ้งความดำเนินคดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 15 แฟลตฟอร์ม ซึ่งศาลมีคำสั่งปิดกั้นแล้ว 12 แพลตฟอร์ม ส่วนที่เหลืออีก 3 แพลตฟอร์ม อยู่ระหว่างดำเนินการในชั้นศาล

แพลตฟอร์มหวยออนไลน์มาไว ก็ไปไว จะถึงคราวอวสานหรือไม่ วิเคราะห์กันได้ไม่ยาก ส่วนชะตากรรมของ “นอท พันธ์ธวัช” ก็ขึ้นอยู่กับการหลักฐาน พยาน…จะจบเห่ หรือ จะแพ้เป็นถ่าน จะผ่านเป็นเพชร อย่างที่เจ้าตัวชอบยกมาปลุกปลอบใจตนเองก็รอดูกัน

ที่แน่ๆ งานนี้ไม่มีเสี่ยงโชค ถ้ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา นะจ๊ะ!!

ครบรอบ 2 ปีของ รัฐประหารพม่า

ครบรอบ 2 ปีของ รัฐประหารพม่า ปูทางเลือกตั้งเอื้อพรรคทหาร

พรุ่งนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันครบรอบ 2 ปีของการก่อ รัฐประหารพม่า โดยพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย สถานการณ์ความเครียด, ปัญหาเศรษฐกิจ, การล่มสลายของประชาสังคม และการถูกประชาโลกโดดเดี่ยว ดูราวกับจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นทุกเวลา

ทุกสัญญาณแสดงว่ากองทัพเมียนมาจัดแจงผนึกอำนาจต่อ และแม้จะกล่าวถึงว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ในปีนี้ แต่ก็มีการ ออกกฎเลือกตั้งตัดจังหวะคู่แข่งโดยเฉพาะแกนการเมือง ที่นำโดยอองซานซูจี ที่วันนี้แปลงเป็นผู้ถูกศาลทหาร สั่งเข้าคุกในหลายคดี เป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว

สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลทหารของเมียนมา ประกาศกฎเกณธ์กติกาการเลือกตั้งใหม่ สำหรับพรรคการเมืองที่จะลงเเข่ง ในสนามเลือกตั้งปีนี้ มีรายละเอียดที่เขียนข้อจำกัดว่าด้วยคุณสมบัติของพรรคการเมือง และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่เพิ่มกฏเกณฑ์ให้ยาก และซับซ้อนมากขึ้น ชัดเจนว่า เพื่อเป็นการปูทางสำหรับหน้าที่ของกองทัพ เพื่อผูกขาดอำนาจทางการเมืองถัดไป

โดยให้การจัดแจงเลือกตั้งเป็นเพียงการจัดฉากให้ดูดีแค่นั้น พรุ่งนี้เมื่อสองปีก่อน กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารและจากนั้นก็ให้คำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งในส.ค.ปีนี้ ตามกฎกติกาชุดใหม่ ที่ประกาศผ่านสื่อของรัฐ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พรรคการเมืองต่างๆ ที่ต้องการลงเเข่งเลือกตั้ง ในคราวนี้ ในระดับประเทศ ควรจะมีสมาชิกพรรค อย่างต่ำ 1 แสนคน มากขึ้นจากคุณสมบัติเดิม ที่กำหนดให้ควรมีสมาชิก 1 พันคนเท่านั้น

 

ปูทางเลือกตั้งเอื้อพรรคทหาร
ยิ่งไปกว่านี้ รัฐประหารพม่า พรรคที่เข้าเกณฑ์ใหม่ จำเป็นที่จะต้องแสดงความจำนงว่าจะลงเเข่งขันภายใน 60 วันจากนี้

หากช้ากว่านี้ก็จะถูกให้ออกจากระบบทะเบียน พรรคการเมือง แน่นอนว่าพรรคที่มีความพร้อมเพรียงที่สุดในยามนี้ ก็คือพรรคที่เป็นตัวเเทน ของทหารเมียนมา นั่นคือ Union Solidarity and Development Party (USDP) ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมาก ที่เป็นอดีตนายพลของกองทัพ พรรคนี้พ่ายเลือกตั้งต่อพรรค National League for Democracy หรือ NLD ของนางอองซานซูจี ในปี 2005 และ 2020 อย่างหมดท่า

ก่อนกองทัพทำ รัฐประหาร โค่นรัฐบาลของซูจีในปี 2021 โดยอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งทั้งๆ ที่ฝ่ายทหารไม่เคยแสดงหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างนี้อย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด วันนี้ สมาชิกพรรค NLD หรือพรรคสันนิบาตแห่งชาติ เพื่อประชาธิปไตย ถูกขัง หรือถูกจับไปแล้วหลายพันคน นอกจากนี้ก็ยังมีอีกปริมาณมากที่จำเป็นต้องซ่อนตัวเพื่อหนีการตามไล่ล่าของทหาร ที่ยิ่งวันยิ่งเพิ่มความร้ายแรง ในการปฏิบัติต่อผู้คัดค้าน การใช้อำนาจเผด็จการของกองทัพ

นักวิเคราะห์ที่ติดตามการเมืองพม่ามายาวนานตั้งข้อคิดเห็นว่ากฎใหม่ ที่ถูกเพิ่งจะประกาศออกมานั้น ไม่ต้องสงสัยว่ามีเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนระบบการเมือง ที่ทหารสามารถมีหน้าที่เข้าควบคุม ได้อย่างเต็มที่ มีปัญหาว่าตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าผู้นำทหารพม่าจะถูกโดดเดี่ยว โดยนานาชาติ แต่ไฉนก็เลยยังสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ถึงทุกวันนี้

เพราะเหตุไรมาตรการคว่ำบาตรจากประเทศต่างๆ จึงไม่มีผลทำให้มิน อ่อง หล่ายต้องยอมลดหย่อนมาตรการปราบประชาชน อย่างหนักของตัวเอง คำตอบเป็นผู้นำทหารพม่าคนนี้ พยายามฉกจังหวะและช่องทางที่มีความปริแยกของประเทศใหญ่ๆ ในสังคมโลกเพื่อยังสามารถแทรกตัวให้ได้รับความให้การช่วยเหลือจากประเทศที่อยู่คนละข้างกับประเทศตะวันตก

เดิมทีสหรัฐอเมริกา และยุโรปหวังว่าแรงกดดันด้านเศรษฐกิจ และการทูตจะบีบให้กองทัพเมียนมายอมยินยอมแต่ต้องเลิกใช้วิธีการเผด็จการ กับผู้เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ผู้นำทหารพม่ากลับหาประโยชน์จากความแตกแยกทั่วทั้งโลก โดยยิ่งเข้ามากลุ่มประเทศ ที่มีมีความขัดแย้งกับประเทศตะวันตก

การจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้ พบว่า ลูกชายของ นายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูค่าเกือบ 30 ล้านบาท ณ ใจกลางกรุงเทพฯ ผลการสอบสวนยังพบ สมุดบัญชีเงินฝาก ของลูกสาวนายพล ของสถาบันการเงินชั้นนำแห่งหนึ่งของไทย สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร ต่อเจ้าหน้าที่ทหารของเมียนมา และบริษัทในเครือด้านทหารหลังการยึดอำนาจ ในกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2021 อีกทั้งทรัพย์สินของลูกๆของมิน อ่อง หล่ายก็ถูกอายัดในสหรัฐฯ

หลายประเทศลดระดับความเกี่ยวเนื่องทางการทูตกับพม่า รวมถึงการไม่ส่งเอกอัครราชทูตไปประจำพม่า สถาบันป้องกันประเทศของประเทศญี่ปุ่นจะหยุดรับนายทหาร จากเมียนมาในปีงบประมาณใหม่นี้ กองทัพเมียนมาตอบโต้ว่า มาตรการต่างๆกลุ่มนี้ถือว่าเป็นการแทรกแซง กิจการภายในประเทศ แต่จีนและรัสเซียยังคบพม่าในระดับเดิม พม่ายังคงรักษาความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจที่มั่นคงกับจีน และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆที่ไม่ใฝ่ใจตะวันตก

น่าเชื่อได้ว่า คนที่เกี่ยวข้องกับการทหารหลายคนก็คงถือสิทธิ์ทรัพย์สิน และเป็นเจ้าของธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านพม่าเช่นเดียวกับลูกของ มิน อ่อง หล่าย เช่นเดียวกัน พม่ายังคงติดต่อค้าขายกับเพื่อนบ้าน บางกลุ่ม จีน ประเทศอินเดีย และไทยรวมกันมีรูปทรงมากกว่า 50% ของการค้าทั้งหมดของเมียนมา ในทางตรงกันข้าม สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรปมีรูปทรงแค่ 14%

ผู้ชำนาญกล่าวว่าเศรษฐกิจของเมียนมาวันนี้ ยังมีเสถียรภาพในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่เจริญก้าวหน้าก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดว่าสินค้ามวลรวมภายในประเทศ ที่โดยความเป็นจริงของเมียนมาจะเติบโตมากกว่า 3% ในปีงบประมาณปีใหม่นี้ ถือเป็นการฟื้นจากการยุบตัว 18% ในปีงบประมาณปี 2021

 

รัฐประหารพม่า
ก็ด้วยเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจนี่แหละที่ทำให้กองทัพสามารถเริ่มเตรียมพร้อมเลือกตั้งทั่วๆไปได้เร็วสุดในสิงหาคมนี้

โดยหวังว่าจะมอบอำนาจให้พรรคในเครือข่ายทหาร เพื่ออ้างความยุติธรรมกับสังคมโลกว่า ได้จัดให้การเลือกตั้ง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ เมียนมายังกระชับความเชื่อมโยงกับรัสเซีย ซึ่งมีความขัดแย้งกับชาติตะวันตก ในเรื่องการทำศึกยูเครน พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เจอกับประธานาหัวหน้ารัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ในก.ย. เพื่อการันตีความร่วมแรงร่วมใจทวิภาคี เมื่อธ.ค.คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ลงมติมติทีแรก ที่เรียกร้องให้เมียนมาร์เป็นประชาธิปไตย แต่รัสเซีย จีน และอินเดียงดเว้นออกเสียง

สำหรับกองทัพเมียนมา การเป็นแนวร่วมกับรัสเซีย และจีนได้คุณประโยชน์ประการหนึ่งตรงที่ไม่หนักใจเรื่องสิทธิมนุษยชนมาก พอๆกับสหรัฐอเมริกา และยุโรป ปัจจุบันนี้ ออง ซาน ซูจี ยังถูกกักคุมหลังการปฏิวัติ และถูกตัดสินติดตะรางรวม 33 ปีแล้วในหลายๆคดี กองทัพยังคงทรมาทรกรรม และประหารชีวิตฝ่ายตรงข้าม สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองระบุว่า พลเรือน 2,827 คนถูกฆ่าตั้งแต่การยึดอำนาจ ไม่แต่เพียงแค่นั้น กองทัพพม่ายังได้เดินหน้าจู่โจมทางอากาศต่อกลุ่มต้านติดอาวุธ และเผาหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านสำหรับเพื่อการสู้รบ บ้านเรือนมากกว่า 48,000 หลังถูกทำลายจนกระทั่งสิ้นเดือนธ.ค.

อาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่อาจจะจะกดดันให้กองทัพพม่า ยอมทำตามอย่าง “ฉันทามติ 5 ข้อ” เพื่อให้อาเซียนช่วยสร้างสมานฉันท์ในประเทศนั้น ดูดุจว่ารัฐบาลทหาร ของเมียนมาจะมีความมั่นใจมากขึ้น เกี่ยวกับการกุมอำนาจรัฐของตนด้วย

สำหรับการพูดสุนทรพจน์เนื่องในวันเอกราชปีที่ 75 ของเมียนมาเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา มิน อ่อง หล่ายประกาศจะรักษาความเกี่ยวข้องฉันท์มิตรกับ เพื่อนบ้านอย่าง จีน ไทย และอินเดีย “ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจสำหรับความร่วมมือและข้อเสนอแนะขององค์กรระดับนานาชาติและระดับภูมิภาคและประเทศต่างๆ ท่ามกลางแรงกดดันและการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา” เขากล่าว ผมไม่แน่ใจว่าเราควรจะดีใจหรือกังวลที่เขากล่าวขอบคุณประเทศไทยด้วย?

ตะวัน แบม

ตะวัน-แบม เสี่ยงหัวใจหยุดเต้น และประกาศไม่รับโพแทสเซียมอีก หลังทราบว่า ยังมีคนไม่ได้ประกันตัว

ตะวัน-แบม วันที่ 8 ของการอดน้ำรวมทั้งของกิน ของตะวัน—ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ รวมทั้งแบม—อรวรรณ ภู่พงษ์ แพทย์แจ้งว่า ทั้งคู่มีความเสี่ยงที่หัวใจหยุดเต้น แต่ตะวันและแบมก็ยังยืนยันที่จะไม่รับการให้น้ำและก็อาหารไม่ว่าจะเป็นในช่องทางใด และไม่รับการดูแลและรักษา

ทนายของทั้งคู่ อธิบายว่า คำถามแรกที่ทั้งสองเอ่ยถามคือ มีเพื่อนได้ประกันตัวไหม ซึ่งทนายได้แจ้งตอบว่าไม่มี พร้อมกับรานงานคำบัญชาประกันของศาลอาญาซึ่งยกทุกคำร้องในวันนี้ให้ทั้งคู่ฟัง

มายด์ ยืนหยุดขัง

ส่วนของอาการทั้งสองนั้น มีอาการปากแห้ง ใบหน้าซีด

หากจะลุกไปไหนจำต้องใช้เครื่องช่วยพยุง รู้สึกอ่อนเพลียทั้งที่นอนอยู่เฉยๆและก็ตะวันมีอาการบวมที่รอบๆใต้คอ ระหว่างคอแล้วก็กราม ซึ่งแพทย์คาดว่าดีกว่าน้ำเหลือง หากบวมกว่านี้บางทีอาจต้องตรวจเพราะเหตุว่าเสี่ยงติดเชื้อ

คำชี้แจงบอกว่า ตะวันและก็แบมมีลักษณะปวดท้องลมตีขึ้นลิ้นปี่ เป็นการปวดท้องทรมารเป็นระยะๆอยู่ทั้งวัน แล้วก็จากความทุกข์มรมานทำให้ตกลงยอมรับยาลดกรดเพื่อลดความทรมาทรกรรมจากการปวดท้องและทำให้หลับได้บ้าง นอกจากนี้ ทั้งคู่มีลักษณะอาการโพแทสเซียมต่ำแล้วก็ได้รับแจ้งความเข้าขั้นความเสี่ยงหัวใจหยุดเต้น โดยวันนี้แบมได้รับโพแทสเซียม แต่ตะวันปฏิเสธไม่รับโพแทสเซียม อีกทั้ง ทั้งคู่ยังการันตีไม่รับอาหารทางหลอดอะไรก็แล้วแต่และไม่รับการดูแลและรักษา

“หลังจากได้รับการแจ้งรายงานผลประกันตัวนักโทษการเมืองรายอื่น ทั้งคู่ได้แจ้งว่ามีความต้องการที่จะยกระดับการต่อสู้ของตน กล่าวคือจะไม่รับโพแทสเซียมอีกต่อไป แล้วซึ่งเบื้องต้นทนายได้แจ้งว่า ขอให้รอผลการอุทธรณ์ในคดีที่ได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันไปก่อน”

นอกจากนี้ แถลงยังระบุว่า ทั้งสองอยากสื่อสารกับภายนอกว่า กำลังใจของทั้งคู่ดีมาก แต่ร่างกายไม่รู้ว่าไหวถึงไหน ซึ่งทั้งคู่รู้มาตลอดว่าทุกวินาทีคือการนับถอยหลังของการมีชีวิต แต่ต่อให้รู้ก็สู้อีก

“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เจตนารมณ์ยังเหมือนเดิมไม่ได้เกี่ยวกับทนายความหรือบุคคลใดอื่น พวกหนูตัดสินใจกันเองและจะไม่ให้ค่าอะไร” ตะวันกล่าวกับคนภายนอก

ขณะที่แบม กล่าวว่า “สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่คือการโทษเหยื่อ ควรไปโทษต้นตอของปัญหา ซึ่งไม่ใช่แบมกับตะวัน”

“พวกหนูอยากบอกว่าเชื่อใจทุกคน เชื่อใจว่าถ้าวันนึงเราชนะ เราจะได้เจอกันที่ปลายทาง รู้ว่าความทรมานของพวกหนูคือความทรมานของทุกคน แต่ขอให้ทุกคนเชื่อใจพวกหนู พวกหนูก็เชื่อใจทุกคนข้างนอก”

ตอนท้ายของแถลงการณ์ ทั้งสองได้แสดงความจำนงค์ว่า จะไม่มีการขอรับบริจาคใดๆ และไม่ต้องการให้มีการบริจาคในนามของทั้งคู่ และขอให้เอาปัจจัยและแรงกำลังไปช่วยเหลือคนอื่นที่ยังขาดแคลนและมีความต้องการมากกว่าพวกตน

“ปี 2549 เราสูญเสียลุงนวมทอง เมื่อสองปีที่แล้ว เราสูญเสียคุณคณากร วันนี้เราจะไม่ยอมสูญเสียตะวันและแบม เป็นอันขาด”

วันนี้ (26 มกราคม) มีมวลชนร่วม #ยืนหยุดขัง บนสกายวอล์คปทุมวัน เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมที่ประกาศอดอาหาร

ตลอดกิจกรรมมีหลายคนผลัดกันขึ้นกล่าวบนเวที อานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร เป็นอีกหนึ่งคนที่มวลชนจับตามอง โดยเขากล่าวเชิญชวนให้ทุกคนออกมาต่อสู้ร่วมกันจนกว่าจะสำเร็จตามเป้าหมาย

“เมื่อปี 2549 เราสูญเสียลุงนวมทอง เมื่อสามปีที่แล้วเราสูญเสียคุณคณากร วันนี้เราจะไม่ยอมสูญเสียตะวันและแบมเป็นอันขาด”

“ต้นทุนของพวกเรามีเยอะ ในขณะเดียวกันเขาก็ทำลายเราเยอะขึ้น ใบปอ ตะวัน แบม และอีกหลายคนก็เช่นกัน เขาเป็นตัวประกันทางการเมือง การต่อสู้หลายคนสูญเสีย เพื่อนเราโดนยิงตาบอด มีน้องโดนยิงเสียชีวิตหน้า สน.ดินแดง ป้าเป้าโดนคดีการเมือง” อานนท์กล่าว

ตะวัน-แบม ทนายอานนท์ ยืนหยุดขัง

ตะวัน-แบม “เราเริ่มจากทะลุเพดาน วันนี้เรามีทะลุแก๊ส ทะลุวัง ทะลุฟ้า”

แกนนำกลุ่มราษฎรรายนี้ ยังยกตัวอย่างกรณีของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เนักเคลื่อนทางการเมือง ที่นำมา สู่พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งได้ผลพวงจากการเรียกร้องทางการเมืองเมื่อปี 2563 “สังคมมันได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เชื่อไปดูคอนเสิร์ตแบล็กพิ้งค์ ไม่เชื่อลองไปดูในโรงหนัง ”

อานนท์ ยังพูดว่า ได้รับการติดต่อสายจากพรรคเพื่อไทย ว่าไม่เกินพรุ่งนี้บรรดาฝ่ายค้านทุกพรรค จะแถลงการณ์สนับสนุนการต่อสู้ของ #ตะวันแบม ทั้งยังระบุเพราะ พรรคก้าวไกลจะเสนอให้แก้ไข ม.112 ก้าวไกล เป็นมาตรฐานต่ำสุด และหากเป็นไปได้ คือ การยกเลิก

ตะวัน-แบม อดอาหาร

“[ตุลาการ] ลองส่องกระจกมองดูตัวเอง ว่า ณ วันนี้ พวกคุณยังทำงานอยู่บนจรรยาบรรณทางอาชีพหรือเปล่า”

วันนี้ (26 มกราคม) มีมวลชนร่วม #ยืนหยุดขัง บนสกายวอล์คปทุมวัน เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของตะวัน–ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม–อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมที่ประกาศอดอาหาร

ระหว่างกิจกรรม มายด์—ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำราษฎร ได้ขึ้นกล่าวบนเวที โดยกล่าวถึงฝ่ายตุลาการ ระบุว่า “ลองส่องกระจกแล้วมองดูตัวเอง ว่า ณ วันนี้ พวกคุณยังทำงานอยู่บนจรรยาบรรณทางอาชีพหรือเปล่า พวกคุณยังยึดมั่นตามหลักการเมื่อครั้งที่พวกคุณเรียนก่อนหน้าที่จะมาทำงานหรือเปล่า ว่าพวกคุณจึงควรดำรงอยู่ไว้ซึ่งความยุติธรรมในประเทศนี้ เพื่อคนทุกคนเป็นคนเท่าเทียมกันจริงๆคุณยังทำแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?

“ตุลาการต้องละอายใจบ้าง ที่คน 3 คน [ตะวัน–แบม–สิทธิโชค] ต้องเอาต้นทุนชีวิตของเขามาแลก กับการมาบืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมตอนนี้มันไม่ยุติธรรม และมันต้องเกิดการปฏิรูป

“หลายคนคงมีข้อสงสัยกับสิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง มันไม่ผิดเลย เราทุกคนต่างใช้วิธีการใดก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องสนใจ คือข้อเรียกร้องที่พวกเขายื่น ที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม หยุดดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชน และเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่อยากเสนอตัวมาเป็นผู้แทน ต้องยกเลิก ม.112-ม.116 ข้อเรียกร้องเหล่านี้ต่างหากที่เราต้องให้ความสนใจ

“คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่คุณต้องสนใจและวิเคราะห์มัน ถ้าเห็นด้วย ก็ต้องเป็นส่วนนึงที่ส่งเสียงร่วมมือกับพวกเขา” มายด์ย้ำ

ที่มา TheMatter.co

มิเชลโหย่วลุ้นออสการ์

มิเชล โหย่ว : ลุ้นนักแสดงหญิงเอเชียคนแรกที่ชนะรางวัลออสการ์ หลังคว้าลูกโลกทองคำสำเร็จ

มิเชลโหย่วได้ออสการ์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแสดงหญิงเชื้อสายเอเชียคนที่ 2 ที่ชนะรางวัลดาราหญิงยอดเยี่ยม รางวัลลูกโลกทองคำ ทำให้ผู้สังเกตการณ์ตั้งความหวังว่า เธอบางทีอาจกลายเป็นนักแสดงหญิงเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ครอบครองรางวัลผู้แสดงฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมของออสการ์

มิเชล โหย่ว นักแสดงหญิงเชื้อสายมาเลเซีย ชนะรางวัลลูกโลกทองคำ จากหน้าที่ผู้แสดงนำฝ่ายในภาพยนตร์เรื่อง “ซือพี่สาวทะลุมัลติเวิร์ส” หรือ “Everything Everywhere All At Once” จากเวทีประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 80 ในปีนี้ ซึ่งเป็นปีแรกที่ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ตามปกติอีกครั้ง

“มันเป็นทางที่ยอดเยี่ยม แล้วก็การต่อสู้ที่สุดยอด ที่ได้มาอยู่นี้” มิเชล โหย่ว กล่าว

ดาราหญิงมากมายฝีมือวัย 60 ปี รับบทบาทเป็น เอเวอลีน หวัง ผู้ย้ายที่อยู่ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ และเป็นเจ้าของร้านซักอบรีด

โหย่ว ถือเป็นนักแสดงเชื้อสายเอเชียคนที่ 2 ที่ชนะรางวัลลูกโลกทองคำ โดยคนแรกคือ อควาฟินา ในภาพยนตร์เรื่อง the Farewell ในปี 2020

การคว้ารางวัลของโหย่ว ทำให้ทั่วโลกต่างแสดงความยินดีในโลกออนไลน์ โดยชื่นชมว่า ฝีมือการแสดงของเธอควรค่าแก่รางวัลนี้ และแฟนคลับของเธอหวังว่า การคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ จะปูทางและเพิ่มโอกาสให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม ในการประกาศรางวัลออสการ์

โหย่ว ซึ่งเริ่มอาชีพการแสดงจากฮ่องกง ในช่วงทศวรรษที่ 1980s ได้กล่าวถึงชีวิตในช่วงแรก ๆ ในม่านฮอลลีวูดของเธอ ระหว่างการปราศรัยรับรางวัล

มิเชลโหย่วได้ออสการ์ มิเชล โหย่ว

“ฉันจำได้ว่า ครั้งแรกที่เข้ามาในฮอลลีวูด มันคือฝันที่เป็นจริง เพราะดูใบหน้าฉันสิ ฉันมาถึงแล้วผู้คนก็บอกฉันว่า ‘เธอมันแค่คนชนกลุ่มน้อย’”

โหย่ว ระบุว่า เธอขอมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้แก่เหล่านักแสดงที่เป็นชนกลุ่มน้อยในแวดวงฮอลลีวูด “และนี่คือรางวัลแด่เหล่านักแสดงที่เคียงบ่าเคียงไหล่ฉันมา รวมถึงเหล่าผู้ที่เข้าวงการมาก่อนฉัน และเหล่าผู้ที่จะเดินหน้าไปตามเส้นทางนี้ต่อไปพร้อมกับฉัน”

โหย่ว มีชื่อเสียงจากหน้าที่การแสดงบทบู๊ในภาพยนตร์แอคชันในประเทศฮ่องกง ในระดับเดียว เฉิน หลง เนื่องจากว่าเธอสวมบทบาทสตั๊นท์ด้วยตนเอง

เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในรูปภาพยนตร์ตะวันตก จากบทบาทในภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ หรือ พยัคฆ์ร้าย 007 ในภาค “Tomorrow Never Dies” ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวแรกในรูปภาพยนตร์ฮอลลีวูด ต่อมาก็คือหน้าที่ในรูปภาพยนตร์ พยัคฆ์ระห่ำ มังกรลำพองโลก ที่ชนะรางวัลออสการ์

ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เธอยังประกาศตัวในรูปภาพยนตร์ทุนสร้างใหญ่อย่าง Crazy Rich Asians และ ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ ในจักรวาลมาร์เวล

ถ้าหาก โหย่ว คว้ารางวัลออสการ์ได้เสร็จ จะถือเป็นผู้แสดงสัญชาติเอเชียคนแรกที่ชนะรางวัลออสการ์ โดยรายนามผู้เข้าร่วมแข่งขันรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 95 จะประกาศในเดือน ม.ค. ก่อนที่จะจัดงานประกาศรางวัลในเดือน มี.ค. เพราะที่แล้วมา คนเอเชียที่ชนะรางวัล จะเป็นสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และดาราหนังช่วยเหลือยอดเยี่ยมเท่านั้น ยังไม่เคยมีคนเอเชียที่ชนะรางวัลนักแสดงชาย หรือหญิงยอดเยี่ยมมาก่อน

คนเชื้อสายเอเชียที่ชนะรางวัลออสการ์มาแล้ว คือ บง จุน-โฮ ด้วยรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากผลงานภาพยนตร์ ปรสิต ในปี 2019 ซึ่ง ปรสิต ยังชนะรางวัลใหญ่อื่นๆอีก 3 รางวัลด้วย

ช่วงเวลาที่เมื่อปี 2020 โคลอี จ้าว ผู้กำกับเชื้อสายเอเชีย คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ Nomadland ในขณะที่ ดาราอาวุโส ยูน ยอจอง ชาวเกาหลีใต้ ได้รางวัลออสการ์ สาขาดาราสนับสนุนยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ Minari

มิเชล โหย่ว “ดูใบหน้าฉันสิ” จากลูกโลกทองคำ-ลุ้นรางวัลออสการ์

“มันเป็นเส้นทางที่ยอดเยี่ยม เป็นการต่อสู้ที่สุดยอดที่ได้มาอยู่ตรงนี้” มิเชล โหย่ว นักแสดงหญิงเชื้อสายมาเลเซีย กล่าวขณะขึ้นรับรางวัลลูกโลกทองคำ หรือ Golden Globes Awards ครั้งที่ 80 กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เบเวอร์ลี ฮิลส์ โฮเทล นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

ตัวเก็งนักแสดงนำหญิงชาวเอเชียคนแรก

เวทีนี้ จัดโดยสมาคมสื่อมวลชนต่างประเทศฮอลลีวูด เป็นเวทีใหญ่ของวงการฮอลลีวูดที่เปิดฉากเทศกาลแจกรางวัล ซึ่งจะไปจบที่เวทีออสการ์ หรือ Academy Awards ครั้งที่ 95 วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2023 หรือตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 13 ของไทย

มิเชลโหย่ว

มิเชลโหย่วได้ออสการ์ TIME เลือก “มิเชล โหย่ว” ดีเด่นแห่งปี

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไทม์-TIME สื่อวารสารโด่งดังของสหรัฐอเมริกา ประกาศผลการคัดบุคคลเด่นแห่งปี 2022 รวมถึงสาขา ICON OF THE YEAR อย่างเช่น มิเชล โหย่ว ในฐานะดาราคนมีชื่อเสียงจากวงการภาพยนตร์เอเชียสู่นักแสดงแถวหน้าของแวดวงฮอลลีวูด

ไทม์กล่าวว่า มิเชลเปิดตัวในแวดวงฮอลลีวูดในทศวรรษที่ 1990 และก็ทราบถึงเส้นทางเร็วที่จะยืนหยัดอยู่ในแวดวงได้ และเป็นแนวทางที่ถูก ด้วยเหตุดังกล่าวแม้มีคำแนะนำต่างๆเข้ามาต่อเนื่อง แม้กระนั้นผู้แสดงเชื้อสายมาเลเซียปฏิเสธทุกบทที่จะส่งผล “ลบ” ต่อผู้หญิงเอเชีย

“ฉันมองสหายๆเคต กางลนเชตต์ แล้วก็โอลิเวีย โคลแมน และเฮเลน มีร์เรน ฉันรู้สึกริษยาที่สหายๆมีโอกาสโชว์ครั้งแล้วครั้งเล่า” มิเชลเปิดใจกับไทม์ และว่าตนเองทุ่มเททุกอย่าง สวมบทเป็นเอเวอลีน หวัง ในรูปภาพยนตร์ Everything Everywhere All At Once

มิเชลคิดว่า เมื่อได้รับช่องทางแบบนี้ก็ต้องทุ่มเทสุดหัวใจและก็วิญญาณ เพราะเหตุว่าไม่เคยรู้ว่าจะได้โอกาสหน้าเมื่อไหร่ รู้สึกว่าความหวาดกลัวที่สุดคือ ต้องไม่ปลดปล่อยให้เป็นเพียงจังหวะเดียวเพียงแค่นั้น

สำหรับเวทีออสการ์ ยังไม่เคยมีนักแสดงเอเชียได้รับรางวัลผู้แสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมมาก่อน

“ฉันคิดเรื่องนี้มาตลอด ไม่ใช่เฉพาะกับฉันนะคะ ฉันรู้สึกว่าชุมชนชาวเอเชียต่างคิด พวกเขาเดินมาหาฉันและพูดว่า คุณกำลังทำให้พวกเรานะ” นักแสดงหญิงแกร่งกล่าว

สรุปผลรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 80

ภาพยนตร์ประเภทเพลงหรือตลกยอดเยี่ยม: The Banshees of Inissherin

ภาพยนตร์ประเภทดรามายอดเยี่ยม: The Fabelmans

กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: สตีเวน สปีลเบิร์ก (The Fabelmans)

บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: มาร์ติน แมคโดนา (The Banshees of Inissherin)

ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม: Argentina, 1985 (Argentina)

ภาพยนตร์แอนนิเมชันยอดเยี่ยม: Pinocchio (Guillermo del Toro)

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทดรามา: ออสติน บัตเลอร์ (Elvis)

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทดรามา: เคต แบลนเชตต์ (Tar)

นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก: โคลิน ฟาร์เรล (The Banshees of Inissherin)

นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก: มิเชล โหย่ว (Everything Everywhere All At Once)

นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม: คี ฮุย ควน (Everything Everywhere All At Once)

นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: แองเจลา บาสเซตต์ (Black Panther: Wakanda Forever)

Avatar The Way of Water

Avatar: The Way of Water รายได้ทะลุ 2 พันล้านเรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์

ยังแรงไม่หยุด Avatar: The Way of Water ทำรายได้ทะลุ 2 พันล้านเหรียญ ภายในเวลาเพียง 39 วัน ขึ้นแท่นหนังเรื่องที่ 6 ของโลกเพียงแค่นั้นที่สามารถทำเงินได้ในระดับนี้

หลังจากเข้าฉายมาได้เพียง 6 อาทิตย์ ภาพยนตร์อวตาร ภาค 2 “Avatar: The Way of Water” หรือ “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” ก็ทำรายได้ทะลุ 2,000 ล้านดอลลาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์เพียงแค่นั้นที่สามารถทำรายได้จากการขายตั๋วได้สูงระดับนี้

โดยเรื่องที่ทำรายได้ทะลุ 2,000 ล้านเหรียญไปก่อนหน้านี้ ได้แก่Avatar, Avengers: Endgame, Titanic, Star Wars: The Force Awakens และ Avengers: Infinity War

จากรายชื่อที่เห็นเท่ากับว่า เจมส์ คาเมรอน เป็นผู้กำกับเพียงคนเดียวของโลกที่ทำหนังรายได้ทะลุ 2 พันล้านถึง 3 เรื่องด้วยกัน คือ Avatar1, 2 และ Titanic

ในส่วนของดาราหนังนั้น โซอี้ ซัลดานา ซึ่งรับบท “เนย์ทิรี” ในภาพยนตร์ อวตาร และบท “กามอรา” ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ ของมาร์เวล ก็แปลงเป็นนักแสดงเพียงคนเดียวของโลกด้วยเหมือนกันที่ได้แสดงหนังระดับ 2 พันล้าน ถึง 4 เรื่อง จากทั้งหมด 6 ได้แก่ Avatar, Avatar: The Way of Water, Guardians of the Galaxy, Avengers: Endgame และ Avengers: Infinity War

Box Office Mojo รายงานว่าช่วงนี้ The Way of Water ทำรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 2,024 ล้านดอลลาร์ ตามหลังหนังทำเงินอันดับ 4 และ 5 ของโลกอย่าง Star Wars: The Force Awakens” (2,071 ล้านดอลลาร์) และ Avengers: Infinity War (2,052 ล้านดอลลาร์) อยู่เพียงน้อยมากเท่านั้น และมีทิศทางว่าจะแซงได้ในเวลาไม่นานด้วยเหตุว่าจนกระทั่งเวลานี้ อวตาร 2 ยังครอบครองอันดับ 1 หนังทำเงินในแถบ อเมริกาเหนือ มาติดต่อกันเป็นอาทิตย์ที่ 6 แล้ว เรียกว่าความแรงยังไม่ต่ำลงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” หรือ The Way of Water จะเข้าฉาย เจมส์ คาเมรอน ได้ให้สัมภาษณ์ แมกกาซีนจีคิว เอาไว้ว่า Avatar2 นับว่าเป็น “กรณีตัวอย่างที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์” เพราะเหตุว่าควรต้องทำรายได้ติดอันดับ 1 ใน 4 ของหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลถึงจะเรียกว่าคุ้มค่าการลงทุน

ในขณะที่นักวิเคราะห์คิดว่า “จุดคืนทุน” ของหนังเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ1,500 ล้านดอลลาร์ ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์ที่ใช้ CG ทั้งเรื่องก็เลยมีต้นทุนสูงมาก

ปัจจุบัน Avatarภาคแรกที่ออกฉายเมื่อ 13 ปีกลาย ยังได้รับตำแหน่ง “หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล”เอาไว้ได้ที่ 2,900 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Avengers: Endgame อันดับ 2 ที่ 2,790 ล้านดอลลาร์ อันดับ 3เป็นTitanic ด้วยรายได้ 2,190 ล้านดอลลาร์

 

Avatar รายได้ทะลุ 2 พันล้าน
ความจริงน่าทึ่งของ Avatar: The Way of Water (อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ)

เป็นหนังที่ทำรายได้แตะต้องหลัก 2 พันล้านดอลลาร์ ได้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Avengers: Endgame ทำได้ในเวลาแค่ 39 วัน เร็วกว่าAvatar ภาคแรก 6 วัน

ด้วยรายได้ทั่วโลก 2,024 ล้านเหรียญ ทำให้ The Way of Water กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับ 6 แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ได้ภายในสัปดาห์นี้

Hollywood Reporter กล่าวว่า The Way Of Water ใช้งบประมาณสำหรับในการสร้างกว่า 350 ล้านเหรียญ ไม่นับรวมค่าการตลาด และค่าพีอาร์อีกหลาย สิบล้านเหรียญ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในหนังที่มีต้นทุนสูงที่สุด เท่าที่เคยมีการสร้างกันขึ้นมา
Avatar 2 เปิดตัวด้วยรายได้ที่น่าผิดหวังในตลาดสหรัฐฯหมายถึง134 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของทุกฝ่าย แต่กลับทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านเหรียญในเวลาแค่ 2 สัปดาห์หลังออกฉาย

ปัจจุบันAvatar: The Way Of Water ครองอันดับ 1 แชมป์บ็อกซ์ ออฟฟิศมาเป็นเวลามากถึง 6 อาทิตย์แล้ว

 

The Way of Water รายได้ทะลุ 2 พันล้าน
เปิดคอนเซ็ปต์Avatar 4 และ 5 เตรียมเจอการเปลี่ยนผ่านช่วงเวลา-กลับสู่โลกที่ล่มสลาย

ดูดุจว่ามหากาพย์Avatar ที่ยืนยาวถึง 5 ภาค กับช่วงเวลามากกว่า 20 ปี จะถูกวางแผนเอาไว้หมดแล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เหลือเพียงกระแสตอบรับจากแฟนๆเท่านั้นที่จะเป็นตัวชี้ชะตาว่ามันจะได้ไปต่อหรือไม่ หลังจากที่ในภาคแรก แนะนำให้พวกเรารู้จักกับโลกใบใหม่ ภาคที่ 2 ก็ได้เริ่มปูทางแนะนำนักแสดงใหม่ๆก่อนที่ภาค 3 จะลงลึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างเชื้อสายต่างๆใน ดาวแพนดอร่า อันแสนสวย และตอนนี้พวกเขาเริ่มแย้มให้เราทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน 2 ภาคสุดท้ายของเรื่องราวแล้วด้วย

ในการให้สัมภาษณ์กับแมกกาซีน Empire โปรดิวเซอร์ จอน แลนทายใจ ได้บอกใบ้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงด้านหลังของมหากาพย์ Avatar ทั้งการ Time Skip หรือการเปลี่ยนผ่านช่วงเวลา และการนำพวกเรากลับไปยังดาวโลก เขาเล่าถึงเรื่องกลุ่มนี้เอาไว้ว่า

“หลังจากที่เกิดการเปลี่ยนผ่านช่วงเวลาครั้งใหญ่ในAvatar 4 ในภาคสุดท้ายเราจะกลับไปที่โลกกันครับ มันจะเป็นเรื่องราวของดาวโลกที่ถูกตัดไปจากหนังภาคแรก นำเสนอโลกที่ล่มสลายอย่างสิ้นเชิง ทั้งปัญหาประชากรล้นโลก และการขาดแคลนทรัพยากรขั้นวิกฤตที่ทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องยาก แต่เราไม่ได้อยากจะให้ภาพเหล่านั้นออกมาสิ้นหวังและไร้ชีวิตชีวาขนาดนั้น หนังชุดนี้จะเกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้ที่เราจะแก้ไขมันด้วยครับ”

หากเป็นแบบนั้นจริง ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า เราจะได้เห็นเหล่าเด็ก ๆ รุ่นใหม่ที่ถูกแนะนำตัวในภาคนี้เติบโตขึ้น และกลายเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องอย่างแน่นอน สิ่งเหล่านี้จะถูกผลักดันมากยิ่งขึ้นเพราะในภาคที่ 3 จะมีการโชว์ด้านมืดของชาวนาวี ขณะเดียวกันก็จะแสดงให้เห็นด้านที่ดีมากขึ้นของมนุษย์ด้วย ทั้งหมดล้วนนำไปสู่บทสรุปทั้งสิ้น ชวนให้น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียวว่าหลังจากนี้จะมีอะไรรอพวกเราอยู่บ้าง

ตำรวจซ้อนแผนจับ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต

งามหน้า! เปิดนาที ตร.ซ้อนแผนจับ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต รีดเงินร้านขายมือถือ 3 แสน

เปิดนาทีตำรวจซ้อนแผนจับ “เจ้าหน้าที่สรรพสามิต” อุ้มพนักงานร้านขายมือถือขึ้นรถ รีดเงิน 3 แสนบาท

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 ม.ค. 2566 MR.WU อายุ 31 ปี ชาวจีน เดินทางเข้าแจ้งเหตุกับ ตำรวจ สภ.เมืองจังหวัดสมุทรปราการ ภายหลังจากชายฉกรรจ์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กรรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นภายในร้าน จำหน่ายอุปกรณ์ โทรศัพท์มือถือ

ก่อนที่จะจับ ผู้จัดการร้าน ลูกน้อง ชาวเมียนมาร์ ขึ้นรถไป กับเรียก เก็บเงินกว่า 3 แสนบาท แลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว เหตุเกิดที่ตึกแถว เลขที่ ตำบล ด้านหลังบ้านใหม่ อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ

 

อุ้มพนักงานร้านขายมือถือขึ้นรถ
MR.WU กล่าวว่า ตัวเองเป็นน้องชาย เจ้าของร้าน เปิดขาย อุปกรณ์มือโทรศัพท์มือถือมานานแล้ว

แต่ก่อนเคยเปิดอยู่ในห้าง ก่อนที่จะย้ายมาเปิดเช่าห้องแถว ที่บริเวณ ซอยอู่ทอง ถัดมา ระหว่างนี้ตัวเองจะมีหน่วยงานราชการ ตัวเองไม่ขอเอ่ยว่า เป็นหน่วยงานใด เข้ามาเก็บค่าลิขสิทธิ์ ที่้ร้านอยู่หลายครั้ง ซึ่งตนเองก็ยอมจ่ายไป ด้วยเหตุว่าไม่ต้องการที่จะอยากมีปัญหา

กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ตนเองไม่อยู่ โดยมีน้อง และ ลูกจ้างหญิง ชาวเมียนมาร์ เฝ้าร้านอยู่กันสองคน มีชายฉกรรจ์ 6-7 คน อ้างว่า กรมสรรพสามิต ขับขี่รถมาหยุดหน้าร้าน ก่อนที่จะเข้ามา ขอค้นที่ร้าน กับพูดว่า อุปกรณ์ ที่ขายอยู่ผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี

ก่อนที่จะจับกุมน้อง และลูกจ้างขึ้นรถไป กระทั่งกลุ่มดังกล่าว ติดต่อมาหาตนว่า จำเป็นต้องเสียค่าปรัก กว่า 3 แสนบาท ต่อมาได้มีการต่อลองลงมา กระทั่งเหลือ 5 หมื่นบาท แต่ตนเองเกรงว่าจะน้อง จะไม่ปลอดภัย และไม่มั่นใจว่า เป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ จึงเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ฝ่าย สืบสวน นำโดย พ.ต.ต.ชัชพงศ์ ขาวสะอาด สว.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นัดหมาย กับผู้เสียหาย ให้พูดคุยกับทาง กลุ่มชายฉกรรจ์ และบอกว่า จะนำเงินไปให้ตามตกลง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ จะซ้อนแผนเข้าจับกุม มีการนัดมอบเงินกันที่ รอบๆปั๊มน้ำมัน ริมทางสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ

โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปแอบซุ่ม ข้างโรงเรียนนายเรือ ถนนหนทางสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปดักซุ่มรอกระทั่งถึงเวลานัดหมาย เจอรถปิ๊กอัพ โตโยต้า รีโว่ สีบรอนเงิน ทะเบียน 3 ขฌ 8533 จอดอยู่ในปั้ม และมีผู้เสียหาย ทั้งสองคน นั่งอยู่ในรถด้วย

จากนาย MR.WU ก็เลยนำซองกระดาษ ข้างในมีเงินกว่า 5 หมื่นบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำสำเนา ไว้เป็นหลักฐานแล้ว เดินลงจากรถยนต์ ไปมอบให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ กระทั่งได้สัญญาณ ตำรวจ เข้าไปล้อมขอค้น

 

เจ้าหน้าที่ สรรพสามิต รีดเงิน 3 แสนบาท
พบว่าในรถมีชาย 3 คน อ้างถึงว่าตนเองเป็น เจ้าหน้าที่สรรพสามิต

ส่วนเงินที่เจอในรถกล่าวถึงว่าผู้เสียหายเอามาให้ เพื่อจะไปเสียค่าปรับ แต่เจ้าหน้าที่ ไม่เชื่อก็เลยนำตัวชายทั้งสามคนมาสืบสวน ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบในรถยนต์ เจอบัตรราชการ ของ ป.ป.ส.ชื่อ นายสวโรจน์ โฉมงาม ระบุตำแหน่ง เจ้าพนักงาน ชำนาญงาน สังกัด กรมสรรพสามิต อยู่บนรถ และยังเจอเสื้อกั๊กสีดำซึ่งติดโลโก้ของ กรมสรรพสามิต 2 ตัว วางอยู่ในรถยนต์ด้วย

ซักถาม นางสาวมลธิลา ใจพรม 21 ปี ผู้จัดการร้าน พูดว่า ขณะที่ตนเองนั่งอยู่ในร้าน มีชายฉกรรจ์มากว่า 6-7 คน ใส่เสื้อกั๊กติดตราของ กรมสรรพสามิต เข้ามาในร้าน ขอตรวจค้น และพูดว่าตนเองขายของเถื่อน

ก่อนที่จะพาตนเองขึ้นรถไป ถัดมาชายทั้งสามคน พาตนไปจอดรถอยู่ รอบๆหน้าที่ทำการ กรมสรรพสามิต ใกล้ศาลากลางจังหวัด สมุทรปราการ แต่ไม่ได้พาเข้าไปในที่ทำการ

ถัดมา กลุ่มชายดังกล่าว ข่มขู่ว่าว่าถ้าไม่นำเงิน 3 แสนบาทมาจ่ายค่าปรับตามตกลง หากถูกตำรวจจับจะเรื่องใหญ่กว่านี้ และต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ด้วยความหวาดกลัวตนเองก็เลย โทรไปหาเจ้าของร้าน และเล่าเนื้อหาให้ฟัง กระทั่งมีการต่อลองจนกระทั่งราคาลดน้อยลง 8 หมื่นบาท แต่ทางเจ้าของร้านมี 5 หมื่น ก่อนที่จะมีการนัดหมาจ่ายเงินกัน ที่ปั้ม ปตท.

ไต่สวนเบื้องต้น รู้ว่า ชายที่โดนจับได้ เป็นเจ้าหน้าที่ของ กรมสรรพสามิต 2 คน สังกัด สรรพสามิตส่วนกลางหมายถึงสำนักตรวจสอบป้องกัน และปราบปราม หรือเรียกว่า (สตป.) และ พลเรือน 1 คน ส่วนรายละเอียด อยู่ระหว่างการสอบสวน

ทั้งนี้ยังเจออีกว่า มีรถอีกคัน ซึ่งน่าจะเป็นของกลุ่มที่เหลือ หลังพบตำรวจ พากันขับหลบหนีไปก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดเรียกตัวมาสืบสวนถัดไป

"จิ๊บ คีตภัทร" ขอเคลียร์ ปมคลิปฉาว ยันไม่ใช่ตัวเอง ฟ้องแน่ ทำเสียหาย

ดาราหนังสาวยุค 90 “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” โพสต์ IG ชี้แจงเรื่องข่าวหลุด ที่หลายคนเดาว่าเป็นตนเอง ยืนยันไม่ใช่ เนื่องจากว่ามาหาครอบครัว ที่สหรัฐอเมริกา ลั่นดำเนินดคีแน่ๆ ฐานทำให้ตนเกิดความเสียหาย ยันไม่ใช่ นางเอก จ. ถูกปล่อยคลิปลับ เจอเรียกเงิน 4 แสน จ่อเอาผิด คนกุข่าวมั่ว ทำเสียหาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด

เป็นประเด็นร้อน สั่นสะเทือนวงการบันเทิง ภายหลังที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่ง ได้ออกมาอ้าง เปิดเผยข้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อชายหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนหนุ่มอัดคลิป แบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ล่าสุดมีคลิปหลุดออกมา เร็ว ๆ นี้ เจ้าตัวเตรียมตัวแถลงข่าวแน่นอน” ถัดมา ก็ได้โพสต์อีกว่า

“โดนแล้ว! อดีตนางเอกดัง ช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดชายหนุ่มนอกวงการ หลังขายคลิปตนเอง ที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับ กลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที มองเห็นหน้าตัวเองชัดเจน เลยทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่น ไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่อง ให้ถึงที่สุด” จนกระทั่งทำให้เกิด การคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่าอดีตนางเอก จ. ช่องหลากสี นั้นคือคนใดกัน ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีชื่อของ “จิ๊บ – คีตภัทร อันติมานนท์” ผู้แสดงสาว ยุค 90 ผุดขึ้นมา ว่าใช่หรือเปล่า

จิ๊บ คีตภัทร โพสต์ IG ชี้แจง

ล่าสุด วันนี้ (13 ม.ค. 2566) “จิ๊บ” ได้ออกมาแจกแจงประเด็น ที่ถูกโยง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว

รับรองว่า ไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่นอน พร้อมจะฟ้องร้องคดีตามกฎหมาย กับคนที่ทำให้เจ้าตัว แล้วก็ ครอบครัว ได้รับความเสียหาย โดยระบุว่า

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ

จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ

อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

พร้อมเขียนแคปชั่นใต้โพสต์ด้วยว่า “ขออนุญาตชี้เเจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บเเน่นอนค่ะ”

โดยแฟนคลับ ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น และก็ ส่งกำลังใจ ให้สาวจิ๊บ อย่างล้นหลาม มากมาย

ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนแรงอย่างมาก หลังจากที่ผ่านมา มีข่าวลือแรง ว่ามีอดีตนางเอก จ. ช่องหลายสี ถูกขู่ ปล่อยคลิปลับ คลิปฉาว เรียกเงิน 4 แสนบาท ซึ่งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็เดาไปเรื่อย และ สุดท้ายคนไม่ใช่น้อยมาพุ่งเป้า ที่อดีตนางเอกมีชื่อ จิ๊บ-คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ถูกโยงว่า เป็นคนในคลิปฉาว ทำเอาเธอเสื่อมเสียชื่อเสียงขึ้นมาทันที

จิ๊บ คีตภัทร

เปิดประวัติ “จิ๊บ คีตภัทร” สาวสวยฝีมือดี ที่คนอยากรู้จัก ให้มากขึ้น

ความคืบหน้าล่าสุด ในโลกอินเตอร์เน็ต มีหลายคนถามมาจำนวนมาก ว่าสาวจิ๊บ ประวัติมีอะไรอย่างไรบ้าง บ้างก็บอกว่าสวยเด่น อยากรู้งานที่ผ่านมา จะได้ไปดูย้อนหลัง งานนี้พวกเราเลยไม่พลาด มาอัพเดทให้แล้วจ้า…

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เป็นนักแสดงในสังกัดดาราวิดีโอและสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์ จิ๊บเป็นนักแสดงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของนักแสดงชายคือ จิม-เจจินตัย แวนดิว นั่นเอง…

โดยจิ๊บเริ่มเข้าสู่วงการสายบันเทิงไทยเป็นนักแสดงมีผลงานเรื่องแรกเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกหนึ่งเรื่องละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้คีตภัทรเป็นนักแสดงที่รู้จักกันและมีชื่อเสียงในยุคนั้น ต่อมาจิ๊บรับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการพลิกบทบาทเป็นนางร้ายและเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพและมีความสามารถด้านการแสดงอีกคับคั่ง

สำหรับผลงานโดดเด่นของสาวจิ๊บนั้นมีมากมายหลายเรื่อง อาทิ กว่าจะรู้เดียงสา, กามเทพลวง, ลูกหลง, เบญจา คีตา ความรัก, รักล้นซอย, ยอดชายนายโข่ง, ทิวลิปทอง เป็นต้น

ผลงานเพลงประกอบละคร เพลง ดนตรีในหัวใจ เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม เพลง เพื่อวันที่ดีกว่า เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม

ในปัจจุบันนี้นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว ยังทำงานมีธุรกิจส่วนตัว รวมไปถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และนอกจากนั้นเธอยังเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารไทยที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย

อุ๊งอิ๊ง พรรคเพื่อไทย ปลุกแดงอุดร

ศึกชิงแบรนด์ “อุ๊งอิ๊ง” พรรคเพื่อไทย ปลุกแดงอุดรฯ สกัด “สุดารัตน์”

ศึกคนกันเอง “อุ๊งอิ๊ง” ชักธงรบ พรรคเพื่อไทย ปกป้องอุดรธานี เมืองหลวงคนเสื้อแดง หวาดหวั่นหน่วยจรยุทธ “สุดารัตน์” เจาะ 2 เขต พื้นที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาวุโส เสี่ยงสอบตก

“อุ๊งอิ๊ง” ไม่ประมาท ทั้งอุดรธานี-หนองบัวลำภู พบกระแสพรรคสีแดงทิ้งคนเก่า หลั่งน้ำตา ลาทักษิณ หันไปพึ่ง “สุดารัตน์”

วันอาทิตย์ที่ 15 เดือนมกราคม2566 อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร จะยกทัพครอบครัวเพื่อไทย ไปเยือน จ.อุดรธานี เปิดเวทีปราศรัย ที่ทุ่งศรีเมือง นำโดย ส.ส.ตัวเอกดาวดัง ของพรรคเพื่อไทย และเป็นครั้งแรกที่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ขึ้นเวทีกลางแจ้ง

เพราะเหตุใด พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในเมืองหลวงคนเสื้อแดง ถ้าเกิดพิจารณาจากคิวเดินสายของ อุ๊งอิ๊ง ในอุดรธานี ก็พอจะได้คำตอบ

เช้าวันอาทิตย์ หลังนั่งเครื่องบินถึงอุดรธานี อุ๊งอิ๊ง และทีมเพื่อไทย ก็เดินทางไปที่ อ.เพ็ญ และ อ.บ้านดุง ด้วยเหตุว่าเป็น 2 เขตที่สุ่มเสี่ยง พ่ายแพ้พรรคไทยสร้างไทย

ปีที่แล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยกทีมมาเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้งสองเขต ปรากฏว่า มีกระแสตอบรับดียอด และข่าวแบรนด์คุณหญิงหน่อยขายได้ กระเทือนถึงดูไบ

บวกกับสถานการณ์ ล่าสุด วิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พาหลานชาย ณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู หลั่งน้ำตาล่ำลาเพื่อไทย ด้วยเหตุว่าพรรคไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.สมัยหน้า

วิชัย สามิตร โยนระเบิดว่า พรรคเลือกนายทุน ไม่เอาคนเก่าที่อยู่กับพรรคมา 20 กว่าปี และต่อมา ทางพรรคเพื่อไทยชี้แจ้งว่า เหตุที่พรรคไม่ส่งณัฐวุฒิ ลงสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเหตุว่าแฟนสาวของณัฐวุฒิ เป็นรองโฆษก พรรคไทยสร้างไทย

ทั้งอุดรธานี และหนองบัวลำภู ต่างก็มีปมมาจากการขัดกัน ระหว่างเพื่อไทย กับ ไทยสร้างไทย

 

ศึกชิงแบรนด์ อุ๊งอิ๊ง
“อุ๊งอิ๊ง” ชิงเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ อุดรธานี เพราะเหตุว่าไม่ประมาทคนกันเอง และไม่มองข้ามแบรนด์ “สุดารัตน์”

ปัจจุบัน ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เหลืออยู่ 7 คน ประกอบด้วย ศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี 4 สมัย ลูกเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ,อนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี 3 สมัย ,ขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี 6 สมัย ,อาภรณ์ สาราคำ ภรรยาขาใหญ่เสื้อแดง-ขวัญชัย ไพรพนา ,จุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ ภรรยาเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี ,เกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี 3 สมัย และเทียบจุทา ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี 3 สมัย ภรรยาวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี

ส่วน จักรพรรดิ ไชยสาส์น ได้ลาออกจาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพรรคเพื่อไทย ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่เพื่อไทยไม่ได้กังวลเขตนี้มากนัก

สมัยหน้า สนามเลือกตั้ง อุดรธานี มี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มจาก 8 คน เป็น 9 คน ทางพรรคเพื่อไทย ได้เตรียมการไว้แล้ว โดยเขตใหม่ จะส่งเสี่ยก้อ-วัชระพล ขาวขำ รองนายกเทศมนตรี นครอุดรธานี ลูก ชายวิเชียร-เทียบจุฑา ขาวขำ ลงสนามเป็นสมัยแรก

ส่วน สมาชิกสภาจังหวัด เบิร์ด กรวีร์ สาราคำ ลูกชายขวัญชัย ไพรพนา จะลงสมัคร ส.ส.แทน คุณแม่ อาภรณ์ สาราคำ ส.ส.อุดรธานี เขต 4

กรณี จักรพรรดิ ไชยสาส์น ลูกชายอีดี้จวบ-บังเอิญ ไชยสาส์น เพื่อไทยจะส่งอีโต้อีสาน ธีระชัย แสนแก้ว อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ สมัครแทน ที่เขต อ.กุมภวาปี

พื้นสุ่มเสี่ยงของเพื่อไทยคือ อำเภอบ้านดุง และ อำเภอเพ็ญ “อุ๊งอิ๊ง” จึงยกทีมไปยืนยัน ความเป็นลูกสาว ทักษิณ ชินวัตร แบรนด์ของแท้ ส่วนแบรนด์ “สุดารัตน์” ไม่ใช่พวกเดียวกัน

ปีที่แล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยกทัพใหญ่ พรรคไทยสร้างไทย มาเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี 2 เขตเป็นอ.บ้านดุง และ อำเภอเพ็ญ

สำหรับ อ.บ้านดุง พรรคไทยสร้างไทย ส่ง โชคเสมอ คำมุงคุณ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านดุง และ อำเภอเพ็ญ ก็ส่ง หรั่ง ธุระพล นายก อบต.เซียงหวาง ลงสนาม

ทั้งโชคเสมอ และหรั่ง เป็นนักการเมืองท้องถิ่นดาวฤกษ์ หรือบ้านใหญ่ เคยลงสมัคร ส.ส.ในสีเสื้อภูมิใจไทย มาตั้งแต่ปี 2554 และปี 2562 ถึงจะแพ้เพื่อไทย แต่ก็ได้คะแนนหลักหมื่น

เมื่อโชคเสมอและหรั่ง ย้ายมาใส่เสื้อพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ ชาวบ้านกล่าวเป็นเสียงกันกันว่า มาถูกทางแล้ว เพราะว่าแบรนด์คุณหญิงหน่อย ยังได้รับความนิยมชมชอบ ต่างแบรนด์เนวิน ที่ราษฎรไม่ยอมรับ

ขณะที่ อนันต์ ศรีพันธุ์ (อำเภอเพ็ญ) และขจิตร ชัยนิคม (อำเภอบ้านดุง) เป็น ส.ส.หลายสมัย แต่ชาวบ้านเริ่มเบื่อ เพราะทั้งคู่ไม่ขยันลงพื้นที่ และได้โอกาสจะแพ้แก่ศัตรูเก่า

 

นายณัฐวุฒิ
‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทัพ พรรคเพื่อไทย บุกถิ่นอุดรฯ15ม.ค.โหมโรงรอลงคะแนนเสียงหวังแลนด์สไลด์

นายณัฐวุฒิ กล่าว การจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย : อีสานยามได๋ เพื่อไทยท่อนั่น ที่ จ.อุดรธานี เพื่อเป็นการยืนยันว่าในปี 66 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นปีแห่งการทวงคืนอนาคตจากรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่ไร้ความสามารถและอยู่ในอำนาจมา 8 ปี ทั้งนี้แม้หลายฝ่ายจะมองว่า จ.อุดรธานี เป็นเมืองหลวงทางการเมืองของพรรค พท. ในภาคอีสาน เพราะชนะเลือกตั้งยกจังหวัดหลายสมัย แต่พรรค พท. ไม่รู้สึกว่าพื้นที่ใดหรือจังหวัดใดสำคัญมากหรือน้อยกว่า ทุกจังหวัดมีความสำคัญสำหรับการทำงานทางการเมืองของพรรคเท่าเทียมกัน

หลังการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยที่อุดรธานี แล้วจะมีการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยไปยังภูมิภาคต่างๆได้แก่ ภาคกลาง อีสานใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ตราบจนกระทั่งจะมีการยุบสภา เมื่อมีการยุบสภาแล้ว พรรค พื้นที่จะจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯเพื่อประกาศคิกออฟแนวนโยบายชุดใหญ่ เป็นนโยบายในโค้งสุดท้ายเพื่อไปสู่สนามลงคะแนนเสียง วัตถุประสงค์ของพรรค พื้นที่ เป็นการมุ่งเป้าที่การชนะออกเสียงแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเอาชนะกติกาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม วางเอาไว้ให้ได้

แม่น้ำหนึ่ง โพสต์ถึง ครูบาไก่

"แม่น้ำหนึ่ง" โพสต์ถึง "ครูบาไก่" 5 ปีไม่มีหมดศรัทธา ลั่นให้โซเชียลอวยไปก่อน

จากกรณีในโลกโซเชียลมีการเปิดเผยว่า อดีตโยมอุปัฏฐาก ออกมาเปิดเผยเรื่องฉาวของ พระเกจิมีชื่อเสียงจังหวัดขอนแก่น มีความสัมพันธ์กับผู้ชาย และคบหากันเป็นแฟน ส่วน แม่น้ำหนึ่ง เป็นลูกศิษย์

อดีตโยมอุปัฏฐากรายนี้ ระบุว่า ตนเองคอยดูแลครูบา ไปทำบุญ ไปช่วยสร้างวัด ซึ่งอยู่มานานพอสมควร อยู่ๆ มีผู้ชายคนหนึ่งทักมาหาตน โดยบอกฝากไปถึงครูบาว่าให้ปลดบล็อกให้หน่อย ตนก็ได้บอกครูบาให้ แต่ครูบาไม่ปลดบล็อก ชายดังกล่าวจึงโมโห บอกว่าตัวเองเป็นแฟนครูบา คบกับครูบามา 2 ปีแล้ว มีหลักฐานข้อความทุกอย่าง แล้วก็ส่งภาพข้อความแชทที่ครูบาพูดคุยมาให้ดู ชายดังกล่าวอ้างว่า ครูบาส่งภาพของลับมาให้หลายภาพ

ขณะที่ด้าน “ครูบาไก่” ทราบเรื่องแล้ว ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ โดยให้เป็นเรื่องของทางทนายความทำงานนั้น

ด้าน แม่น้ำหนึ่ง ภิรดา ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ที่ให้ความเคารพ ครูบาไก่ โพสต์ใจความผ่านเฟซบุ๊ก ภิรดา ธนโชติจินดา ระบุว่า

“รับจ้างโกหก รับจ้างกระทำความผิด มีความผิดนะคะ ใส่ร้ายใส่ความให้ผู้อื่นเสียหาย อย่าพึ่งหงายการ์ดว่าตัวเองเป็นคนดี ตอนนี้ให้โซเชี่ยลอวยไปก่อน ปักหมุดรอชมต่อไป”

 

5 ปีไม่มีหมดศรัทธา
โดยก่อนหน้านั้น “แม่น้ำหนึ่ง” ได้แชร์ข้อความทางเพจ บุญนี้บารมีปู่ พร้อมข้อความบอกว่า

5 ปีไม่มีหมดศรัทธา ใครที่อยู่ด้วย สนิทสนมจะรับรู้ได้ถึง ความเมตตาที่หลวงลุงมอบให้เสมอมา ตลอดเวลาที่ได้กราบ หลวงลุง มา ประสบเจอกับปัญหา และมารเข้ามาสารพัดสารพันรูปแบบ หนูก็ไม่เคยหมดศรัทธา ไปไหว้พระครูบาแรกๆ มีทั้งหนี้ มีทั้งมรสุมชีวิต แต่หลวงลุงก็ทักว่า จะดีจะได้เป็นคนมั่งคั่งมาช่วยคน ให้หมั่นทำบุญสุนทาน บริจาคทาน ทำงานค้าขายตั้งใจ จะได้สมหวังดังปรารถนา 1 ปีถัดมาชีวิตหนูก็เปลี่ยนแปลงไป ใครที่ติดตามตั้งแต่ ขายบราปีนก จะทราบว่าพระครูบาไก่ คือพระที่หนู ก้มกราบได้ด้วยใจศรัทธา และไม่รู้เรื่องสึกสงสัยใดใดในท่านเลย

ศิษย์พระครูบามีมากมาย ทั้งเจ้าของกิจการ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งคนใหญ่คนโต ใครที่อยู่กับพระครูบามาจะทราบดีว่าท่านไม่เคยอ้างอุตริเลย ใครบอกท่านดูดวงท่านก็จะ กล่าวว่าไม่ได้ดูดวงให้หนู ท่านแค่ให้กำลังใจ พลังใจว่าหนูจะรวย บอก เพื่อให้หนูมีพลัง มีเรี่ยวแรงสำหรับในการหาเงิน และสุดท้ายหนูก็เสร็จ ด้วยความศรัทธาที่ว่า พระครูบาท่านทักว่าพวกเราจะร่ำรวย พวกเราจะตั้งใจขายของ จะได้ร่ำรวย แล้วความตั้งใจก็ทำให้เราสำเร็จ

แม่น้ำหนึ่ง ลั่น5ปีไม่มีหมดศรัทธา ครูบาไก่ โพสต์ถึงคนรับจ้างโกหกกล่าวหาปักหมุดรอคอย

พระที่ก้มกราบไม่รู้จักสึกสงสัยใดในท่านเลย แม่น้ำหนึ่ง ลั่น5ปีไม่มีหมดศรัทธา ครูบาไก่ โพสต์ถึงผู้รับว่าจ้างโกหกใส่ความปักหมุดรอคอย ทักจะดีจะได้เป็นคนมั่งคั่งมาช่วยคน ตั้งใจทำมาค้าขายจนกระทั่งสำเร็จ

จากกรณีมีอดีตโยมอุปัฏฐาก “ครูบาไก่” นำภาพของลับที่กล่าวว่าเป็นของเกจิโด่งดัง ส่งให้กับชายหนุ่มซึ่งกล่าวหาว่าคบหากันเป็นแฟน ขณะที่ด้าน “ครูบาไก่” ทราบเรื่องแล้ว ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์โดยให้เป็นเรื่องของทางทนายความดำเนินการนั้น

ด้านแม่น้ำหนึ่ง ภิรดา ลูกศิษย์ที่ให้ความเคารพครูบาไก่ โพสต์ วันที่ 10 ม.ค.66 เป็นเนื้อความผ่านเฟซบุ๊ก ภิรดา ธนโชติจินดา ว่า รับจ้างโกหก รับแรงงกระกระทำความผิด มีความผิดนะคะ ใส่ร้ายปรักปรำให้คนอื่นเสียหาย อย่าพึ่งหงายการ์ดว่า ตนเองเป็นคนดี ตอนนี้ให้โซเชี่ยลอวยไปก่อน ปักหมุดคอยชมต่อไป

 

แม่น้ำหนึ่ง ลั่น5ปีไม่มีหมดศรัทธา
ด้านแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์ส่งเสริมด้วย

เช่น ตามแม่โพสต์เลยค่ะคิดแบบนี้ ตั้งแต่แรกที่เห็น คนไลฟ์สดอะไรคืออวยแท้น้อมันผิดวิสัย ของการเผยแพร่ ฟังบ่ขึ้นปานใด ใจร่มๆค่ะ ศรัทธาท่านมากจ้ะตามจากแม่เลย , เป็นกำลังใจให้พระครูบาจ้ะ พวกเราศรัทธาในตัวท่านค่ะ , รอดูถัดไปค่า ฯลฯ

ก่อนหน้านั้นแม่น้ำหนึ่งแชร์ใจความทางเพจ บุญนี้บารมีปู่ โดยกล่าวว่า ศรัทธาตลอดมา เป็นภาพกับครูบาไก่ พร้อมแคปชั่นว่า 5 ปีไม่มีหมดศรัทธา ใครที่อยู่ด้วย ใกล้ชิดจะรับทราบได้ถึงความกรุณาปรานีที่ หลวงลุงมอบให้เสมอมา ตลอดเวลาที่ได้กราบหลวงคุณลุงมา ประสบปัญหา และมารเข้ามาสารพัดรูปแบบ หนูก็ไม่เคยหมดศรัทธา ไปกราบพระครูบาแรกๆ มีทั้งหนี้สิน มีทั้งมรสุมชีวิต แต่หลวงลุงก็ทักว่า จะดีจะได้เป็นเศรษฐีมาช่วยคน ให้หมั่นทำบุญทำทาน ทำทาน ทำงานค้าขายตั้งใจ จะได้สมหวังดังปรารถนา 1 ปีถัดมาชีวิตหนูก็เปลี่ยนแปลงไป

ใครที่ติดตามตั้งแต่ขายบราปีนก จะรู้ดีว่าพระครูบาไก่ เป็นพระที่หนูก้มกราบ ได้ด้วยใจศรัทธา และไม่เคยทราบสึกสงสัยใดใดในท่านเลย ศิษย์พระครูบามีมากมาย ทั้งเจ้าของกิจการ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งคนใหญ่โต ใครที่อยู่กับพระครูบามาจะทราบว่าท่านไม่เคยอวดอ้างอุตริเลย ใครบอกท่านดูดวงท่านก็จะพูดว่าไม่ได้ดูดวงให้หนู ท่านแค่ให้กำลังใจ พลังใจว่าหนูจะมั่งมี พูดเพื่อให้หนูมีพลัง มีเรี่ยวแรงสำหรับเพื่อการหาเงิน และสุดท้ายหนูก็เสร็จ ด้วยความเชื่อที่ว่า พระครูบาท่านทักว่าเราจะรวย พวกเราจะตั้งใจทำมาหากิน จะได้มั่งคั่ง แล้วความตั้งใจก็ทำให้เราสำเร็จ #บารมีชินวโร #ครูบาไก่ #ภิรดา

หวยงวดแรกของปี เลขเด็ด แม่น้ำหนึ่ง มาแล้ว 17/1/66 จัดเต็มเหมือนเดิม!

ปล่อยเลขเด็ดเอาใจคอ หวยเป็นงวดแรกของปี 2566 แล้ว สำหรับแม่น้ำหนึ่ง ภิรดา บุญนี้บารมีปู่ ที่ในงวดนี้ก็ยังคงให้แนวทางให้เหล่าคอหวยหวยนำไปลุ้นเสี่ยงโชคในการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันอังคาร ที่ 17 มกราคม 2566 มีทั้งเลขฟัน เลขชุด เลขสองตัว เลขสามตัว

โดยในงวด 17/1/66 นี้ แม่น้ำหนึ่ง ปล่อยเลขมา 2 ชุด ซึ่งจะเน้นไปที่เลข 5 เลขสองตัว 59-52-29 และ 79-75-72 เลขสามตัว 592 และ 7592