Category ข่าววันนี้

บิ๊กตู่ เปิดตัวไม่ปังก็จบเห่

“บิ๊กตู่”-รวมไทยฯ เปิดตัวไม่ปังก็จบเห่ !?

เชื่อว่าวันที่ 9 มกราคม สำหรับคอการเมือง แล้วก็ชาวบ้านหลายคนคงจะจับจ้องไปที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ มีการเปิดตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนักการเมืองเต็มตัว โดยถือฤกษ์ดีสมัครสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะกลายเป็นภาพจำแบบใหม่ สำหรับตัวเขา เนื่องจากในวันนั้นคงจะมีการสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติกันด้วย ทำให้กลายเป็นจุดโฟกัสสำคัญ

ที่บอกว่าการเปิดตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับความสนใจจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากพรรคการเมือง ฝั่งตรงข้าม อย่างพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคการเมืองในขั้วเดียวกัน แต่ว่าเป็นคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง ที่น่าสังเกตก็คือ ก่อนจะมีงานเปิดตัวก็มีการ “แซะ” การขัดแข้งขัดขา ดิสเครดิตกันล่วงหน้ามาตลอด แต่หากดูอีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นว่า การขยับตัวของเขาคราวนี้ย่อมสร้าง ผลกระทบกับคู่แข่งแน่นอน ถึงได้ออกโรงแสดงปฏิกิริยากันขนาดนี้

ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สำหรับกำหนดการของพรรครวมไทยสร้างชาติในวันที่ 9 มกราคม จะมีการโฟกัสไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียวแค่นั้น

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” และก็ประชุมใหญ่วิสามัญของพรรครวมไทยสร้างชาติในวันดังกล่าว จะมีสมาชิก กรรมการสาขาพรรคเข้าร่วมด้วย ทั้งนี้จะมีการคัดเลือกกรรมการ ตามข้อกฎหมาย ที่กำหนดไว้ โดยการประชุมดังกล่าว จะมีตัวแทน จากคณะกรรมการ การเลือกตั้ง หรือ กกต. ร่วมสังเกตการณ์อยู่แล้ว

ส่วนการเข้าสมัครสมาชิกพรรคแล้วก็เปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมีขึ้นในช่วงเย็น ซึ่งไฮไลต์ทั้งหมด จะพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวเท่านั้น โดยไม่มีความกังวลหาก กกต. จะเข้าร่วม สังเกตการณ์ด้วย เพราะเหตุว่าเป็นช่วงเวลาหลังราชการแล้ว

ส่วนการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หรือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใดจะย้ายเข้าสังกัด พรรครวมไทยสร้างชาติ จะทยอยเปิดตัวภายหลังจากนี้ แล้วก็จะมีเซอร์ไพรส์ ให้เห็นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าจะต้องรอให้ กกต.แบ่งเขตการเลือกตั้งให้เสร็จก่อน จากนั้นจะทยอยเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครทุกภาค และปัจจุบันนี้พรรคมีการวางตัวผู้สมัครไว้ครบ เกือบทุกพื้นที่แล้ว ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง หรือใต้

นายเอกนัฏ ย้ำว่าการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ (ลุงตู่) จะมีการแสดงจุดยืนของนายกฯแล้วก็กล่าวถึงมิชชั่น รวมทั้งแนวทางก้าวต่อไป เพื่อคนไทยทั้งชาติ ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมงานเกือบหมื่นคน จะมีการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคด้วย ทั้งนี้จะยังไม่ประกาศชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรค เนื่องจากจะต้องรอกระบวนการของ กกต.ก่อน แต่ยืนยันว่า ชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดต ของพรรคอย่างแน่นอน

สำหรับการทาบทาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เข้าร่วมงานการเมือง กับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ มองว่า พล.อ.อนุพงษ์ ไม่น่าสนใจ ที่จะร่วมกับพรรค แต่เชื่อว่าพล.อ.อนุพงษ์ จะคอยช่วยงานพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ ด้วยเหตุว่าถือว่าทั้ง 2 คนมีความผูกพันกัน

ลุงตู่

นั่นเป็นกำหนดการ การเปิดตัวด้านการเมืองครั้งสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา(บิ๊กตู่) แล้วก็พรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

เนื่องจากว่าอย่างที่รู้กันก็คือ มีการจับตามองกันทุกทาง รวมถึงการ “จับผิด” เพื่อหาช่องทางเล่นงานทางด้านกฎหมาย จากฝ่ายตรงข้าม แต่อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจก็ต้องดูที่ “สปีด” ของเขา ที่จะพูดออกมาแล้ว มันจะน่าสนใจมากแค่ไหน รวมทั้งที่กล่าวว่าเป็น “มิชชั่น” นั้นมันเป็นภารกิจ ที่ชวนให้ติดตาม สานต่อได้แค่ไหนอีกด้วย

ตามกำหนดการ ที่กำหนดเอาไว้ อยากที่จะให้งานนี้ออกมาแบบ “ยิ่งใหญ่อลังการ” ในการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียวของพรรค แบบไม่เป็นทางการ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทั้งจำนวนมวลชน ที่มาร่วม รวมไปถึงสมาชิกพรรค ว่าที่สมาชิกพรรค

ทั้งที่เป็น ส.ส. นักการเมืองระดับ “บิ๊กเนม” ทั้งหลายที่มาร่วม แล้วก็ให้กำลังใจ ภาพที่ออกมา จะต้องดูยิ่งใหญ่ คึกคัก น่าติดตาม เพราะถ้าหากทุกอย่างออกมา แบบธรรมดา พื้นๆ มันก็เสี่ยง ที่จะจบเห่ได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน

ด้วยเหตุว่าในความเป็นจริงแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกับเป็น การเดิมพันที่สูงมาก ไม่ต่างจากการ “ลุยเดี่ยว” แบบนั่งเรือกันคนละลำกับ “พี่ใหญ่” คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนาทีนี้แม้จะพูดว่ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตัดขาดกันไม่ได้ แต่ว่าในทางการเมืองถือว่ากลายเป็น “คู่แข่ง” กัน เช่นเดียวกับที่พล.อ.ประวิตร เคยกล่าวไว้ว่า “ใครดีใครได้” นั่นแหละ

ขณะเดียวกันสำหรับ“บิ๊กตู่” นับว่าเป็นความหวังของบรรดา “แฟนคลับ” ที่เป็นผู้สนับสนุน มายาวนาน แล้วก็ที่สำคัญต้องมา “แบก” พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด อย่างน้อยในเบื้องต้น ก็ต้องเกินจำนวน 25 คน ให้ได้ก่อน เพื่อฝ่าด่าน การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี

ฉะนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับว่า “มีทีเด็ด” แค่ไหนด้วย ด้วยเหตุว่าหาก“ออกตัวดี” มันก็ยิ่งเพิ่มพลังดูด สร้างแรงจูงใจให้กับคนที่ยังลังเล ได้รีบตัดสินใจ ได้เร็วขึ้น ว่ามาแล้ว “ไม่พลาด” อะไรประมาณนี้

ด้วยเหตุว่าในสนามการเมืองนอกจากฝั่งตรงข้ามแล้ว ในกลุ่มพรรคพันธมิตรเดิมทุกพรรค ก็เตรียมลุยเต็มที่ ไม่มีใครยอมหลีกทางให้แน่นอน ไม่เว้นแม้แต่พรรคพลังประชารัฐของ “พี่ใหญ่” โดยเฉพาะในสนามภาคใต้ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่ต้องสู้กันมันหยดแน่ แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าเกิดการเปิดตัวเริ่มต้น ได้อย่างน่าสนใจ มันก็สามารถสร้างกระแส มีพลังดึงดูดตามมา แล้วก็ที่สำคัญหลายอย่างจะได้เห็นของจริง ด้วยสายตา ในวันสำคัญนี้แน่นอน !!

ศักดิ์สยาม สั่งสอบเปลี่ยนป้ายชื่อ

"ศักดิ์สยาม" ขีดเส้นสอบเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้านบาท

“ศักดิ์สยาม” เซ็นตั้ง “รองปลัดฯ คมนาคม” นั่งหัวโต๊ะสอบข้อเท็จจริงเปลี่ยนป้ายชื่อ “สถานีกลางบางซื่อ” 33 ล้านบาท ขีดเส้น 15 วัน ส่งผลสอบ

เมื่อวันที่ 4 เดือนมกราคม66 นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงนามในคำสั่งกระทรวงคมนาคม ที่ 5/2566 เรื่องตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการแก้ไขป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของรฟท. โดยมีใจความว่า

ด้วยปรากฏข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย (Social Media) เช่น เว็บเดลินิวส์ออนไลน์ แล้วก็เว็บไชต์ผู้จัดการออนไลน์ เกี่ยวกับการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการปรับแก้ป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และก็ตราสัญลักษณ์ของรฟท. ที่มีมูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาทเศษ (วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร จำนวน 34 ล้านบาท) มีราคากลางคำนวณ ณ วันที่ 7 เดือนธันวาคม 2565 จำนวน 33,169,726.39 บาท โดยใช้วิธีการจัดซื้อหรือจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกและก็ราคาที่ต้องซื้อหรือจ้าง ได้แก่ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เป็นเหตุให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณ รวมถึง นายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะว่าไม่ใช่เหตุของความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ โดยใช้วิธีการว่าจ้างเอกชนด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสูญเสียงบประมาณในการว่าจ้างปรับปรุงป้ายชื่อ ที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าปกติ ทั้งนี้ ถ้าหากดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีการประกาศเชิญชวน หรือวิธีการคัดเลือกก่อนจะทำให้การใช้งบประมาณของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวว่า ได้มีการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร และการใช้งบประมาณเหมาะสมกับปริมาณงานและราคากลางของกรมบัญชีกลางหรือไม่ แล้วก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาลและก็รักษาผลประโยชน์ของชาติ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แล้วก็ตราสัญลักษณ์ของรฟท.

สถานีกลางบางซื่อ

ศักดิ์สยาม เซ็นชื่อแต่งตั้ง รองปลัดฯ คมนาคม นั่งหัวโต๊ะสอบข้อเท็จจริง โดยมีองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้

1. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ประธานกรรมการรองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง)
2. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง
3. ผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย รองประธานกรรมการโดยมีกรรมการ ประกอบด้วย
4. ผู้แทนสภาสถาปนิก
5. ผู้แทนสภาวิศวกร
6. ผู้แทนกรมบัญชีกลาง
7. ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
8. ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงานเลขานุการ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
9. ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ผู้ช่วยเลขานุการกรมการขนส่งทางราง
10. ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ช่วยเลขานุการ

โดยให้คณะกรรมการฯ มีหน้าที่และอำนาจในการรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย แล้วก็พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งปวงที่เห็นว่า เป็นประโยชน์แก่การตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีที่ปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงใดที่กล่าวอ้างหรือพาดพิงถึงบุคคล เอกสาร หรือวัตถุใดที่จะเป็นประโยชน์แก่การตรวจสอบข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการฯ ทำการตรวจสอบ และก็รวบรวมพยานหลักฐานนั้นไว้ให้ครบถ้วน หากไม่อาจเข้าถึงหรือได้มาซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าว ให้บันทึกเหตุนั้นไว้ด้วย รวมถึงให้คณะกรรมการเรียกบุคคลใดมาเป็นพยาน เพื่อชี้แจงหรือให้ถ้อยคำตามวัน เวลา และสถานที่ที่กำหนดไว้ได้ ตลอดทั้งการพิจารณาทำความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมจัดทำรายงานผลของการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนอผู้สั่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาภายใน 15 วัน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 4 มกราคม พุทธศักราช 2566

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ

33 ล้าน แพงไปมั้ย? เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ แนะการรถไฟฯ แจงขั้นตอนตรงไปตรงมา

นายสราวุธ สราญวงศ์ เผยว่า สถานีกลางสร้างเสร็จแล้วในเดือนเมษายน 2564 เปิดใช้เป็นทางการเมื่อ 12 สิงหาคม 2564 ไม่มีปัญหาเรื่องชื่อ แต่ติดใจจากประเด็นที่มีการรับจ้างทำป้ายในราคา 33 ล้าน สงสัยว่ามีกระบวนการเช่นไร จึงไปค้นหาข้อมูล ปรากฏว่ามีการทำคำสั่งเรื่องจัดจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งต้องเป็นความจำเป็นเร่งด่วน จึงตั้งข้อสงสัยว่า ใช้วิธีการแบบนี้แล้วเป็นราคา 33 ล้านบาท มันสูงเกินไปไหม มีคู่เทียบ หรือการดำเนินการตามขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ด้านนายประภัสร์ จงสงวน บอกว่า เข้าใจว่าเป็นกฎหมายใหม่ เนื่องจากว่าแก้ในปี 2560 ซึ่งตอนที่ตนดำรงตำแหน่ง ไม่มีคำว่า “เฉพาะเจาะจง” คงจะสื่อถึงการที่ชี้เอาใครก็ได้ ในทางปฏิบัติก็สื่อไปในทางนั้น ได้ข่าวว่าคณะกรรมการจัดจ้างมีการสอบถามบริษัท 3 ราย จึงอยากทราบว่ามีเอกสารไปสอบถามทั้ง 3 รายไหม แล้วเขาตอบกลับมาเช่นไร ส่วนเอกสารที่การรถไฟฯ แจ้งออกมา ยังไม่เพียงพอที่จะให้เสนอราคาแบบถูกต้องได้ ไม่มีรายละเอียดเลย เพราะคนที่เสนอราคาจะต้องทราบว่าต้องทำอะไร

เรื่องนี้ทางผู้บริหารต้องเป็นคนชี้แจงเอง ถามตนแล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเลย ถ้ามีการจัดโต๊ะแถลง ชี้แจงสื่อ เพราะมีประเด็นเรื่องด่วนที่สุด พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการกลาง อ้างเหตุผลต่างๆ ในส่วนนี้จะต้องมีข้อมูลเฉพาะ ว่าใช้เกณฑ์อะไรเลือกบริษัทเป็นผู้รับจ้าง กระบวนการจ้างบริษัท รวมทั้งราคากลางที่ตั้งเปรียบเทียบแบบไหน ซึ่งตัวเองนั้นไม่ติดใจเรื่องราคา

ถ้าเกิดการรถไฟแสดงความจริงใจ เอาผู้ที่เกี่ยวข้องมานั่งอธิบาย แต่การที่ชี้แจงทางออนไลน์ มันไม่สามารถตอบคำถามได้ แล้วที่เขียนมา คนทั่วไปอ่านยิ่งเกิดคำถาม ถ้าดูตามเนื้องานราคาก็ถึงขนาดนั้นได้ แต่ว่ามีข้อจำกัดทางข้อมูลที่ได้มา ยกตัวอย่างเงินเผื่อเหลือเผื่อขาด ส่งผลให้เกิดข้อสงสัยว่าตกลงราคาที่เซ็นสัญญากันคือเท่าไรกันแน่ เพราะเหตุว่ายิ่งดูแล้วยิ่งสับสน ทางที่ดีจัดตั้งโต๊ะแถลงข่าว เชิญสื่อทุกสำนัก ใช้ดูเอกสารทุกอย่างเลย น่าจะเป็นการการปัญหาได้เด็ดขาดที่สุด เพื่อไม่ให้การรถไฟฯ เสียชื่อ

ด้านนายสราวุธ เผยว่า จะถามว่าถูกหรือแพง พอกระบวนการไม่มีคู่เปรียบเทียบว่าราคาถูกหรือแพง ก็เลยเกิดข้อสังสัยว่าสรุปราคาถูกหรือแพงด้วยเหตุว่าไม่สามารถเปรียบเทียบได้ เลยอย่างเสนอให้ทางการรถไฟฯ ออกมาชี้แจง ถ้ามีการตั้งคำถามหรือตอบข้อสงสัยต่างๆ ก็จะให้ความกระจ่างได้ ที่สำคัญคือเป็นการแสดงหลักธรรมมาภิบารในการใช้งบประมาณรัฐให้มีความคุ้มค่า ประเด็นนี้มองว่าราคาจะแพงหรือไม่แพง ถ้าหากมีการชี้แจงถึงขั้นตอนที่มีความตรงไปตรงมา มีขั้นตอนก็จะเข้าใจได้ สิ่งสำคัญคืออยู่ที่กระบวนการที่การรถไฟอ้างว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้วิธีเฉพาะเจาะจงเพราะอะไรให้สังคมได้รับทราบ

ซึ่งนายประภัสร์ เปิดเผยว่า ถ้าหากมีความจำเป็นเร่งด่วนจริง ก็ควรเสร็จตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญา เนื่องจากว่าหนังสือที่ผู้ว่าฯ สั่งการตั้งแต่ 27 กันยายน ถ้าเกิดจะทำจริงๆ ทำไมจะทำไม่ได้เพราะทุกอย่างมีพร้อมอยู่แล้ว จนกระทั่งปลายปี และเอาเหตุที่ไม่ควรเป็นเหตุทำให้เดือดร้อนประชาชน เพราะว่าการปิดเฉพาะรถขบวนยาวที่หัวลำโพงในวันที่ 19 เดือนมกราคม 66 เป็นการทำให้คนยากจนเดินทางลำบาก ควรเตรียมเรื่องเหล่านี้ให้เรียบร้อย

สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

กรณีที่การรถไฟฯ แถลงผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก

นายสราวุธ เปิดเผยว่า รับฟังได้ระดับหนึ่ง ถ้ามีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวคงจะมีความเหมาะสม และก็ได้ข้อความที่ชัดเจนมากยิ่งกว่า เพราะเหตุว่าถ้าอธิบายเป็นหนังสือแบบนี้ ไม่มีโอกาสที่ผู้เกี่ยวข้องจะสอบถามได้ เพราะว่าไม่มีข้อมูลอะไรมาเปรียบเทียบ

ส่วน นายประภัสร์ พูดว่า ชี้แจงไม่ตรงประเด็น เพราะเหตุว่าคนสงสัยราคาแล้วก็วิธีการได้มาของผู้รับเหมา พออ้างอิงว่าไปสืบราคามา ดังนั้นก็ต้องมีเอกสารข้อมูลในการสืบราคามา ก่อนได้เป็นราคากลางมา 34 ล้านบาท จึงเป็นคำถามว่าได้ 34 ล้านมาจากอะไร ด้วยเหตุว่าถามตนแล้ว หากเห็นเอกสารแค่นั้น ก็บอกไม่ได้ว่าคิดราคาเท่าไร

ในขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รับธรรมนูญไทย เผยว่า คิดว่าเป็นการดำเนินการที่ขัด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากว่าทุกกลุ่มบริษัทก็ทำได้ จึงไม่ต้องมีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดจ้างแบบวิธีการจำเพาะเจาะจง แต่เงื่อนไขที่ รฟท. แถลงออกมาไม่ได้เข้าเงื่อนไขเลย หากเปิดให้มีการประมูลแข่งขันเป็นธรรม น่าจะได้ราคาที่ถูกลง ตนมองว่า 33 ล้านมันแพงไป ดูตามสเปกแล้วบริษัททั่วไปเขาก็ทำได้ ทั้งนี้จะให้ตรวจสอบคณะกรรมการผู้กำหนดราคากลางด้วย โดยจะใช้วิธีการยื่นให้ สตง.ตรวจสอบเบื้องต้น ถ้ามีพิรุธมากกว่านี้ก็ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อ

สุดท้าย นายประภัสร์ กล่าวว่า ตนเองเห็นตรงกันเรื่องกระบวนการได้มาในการจัดซื้อป้าย ถ้าเกิดต้องเหตุผล หากผู้บริหารจัดแถลงข่าวเอาทุกอย่างเผยต่อสื่อ หากทุกอย่างยังคลุมเครือ แล้วให้ประชาสัมพันธ์ทำแบบนี้ จะกลายเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง อ่านแล้วยิ่งสร้างความสงสัยในหลายๆ เรื่อง ดังนั้นต้องพิจารณาว่าการใช้ประชาสัมพันธ์ทำอย่างงี้มันถูกต้องหรือไม่

4 ล้านคนแห่ต้อนรับ ทีมชาติอาร์เจนตินา

4 ล้านคนแห่ต้อนรับ "ทีมชาติอาร์เจนตินา" ต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ฉลองแชมป์กับแฟนบอล

นักฟุตบอล ทีมชาติอาร์เจนตินา จำเป็นต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อสังสรรค์แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 หลังแฟนบอลพากันแห่มาต้อนรับ 4 ล้านคน จนจำเป็นต้องยกเลิกขบวนรถแห่

วันที่ 21 ธันวาคม 65 ความเคลื่อนไหวของ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่กำลังอยู่ในระหว่างการฉลองแชมป์บอลโลก 2022 อยู่ที่บ้านเกิด

บรรดานักฟุตบอล ทีมชาติอาร์เจนตินา ได้เดินทางไปที่ทำการสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา

แต่ระหว่างจะออกจากที่นั่นพวกเขาจะต้องยกเลิกขบวนแชมป์กลางคัน เนื่องจากว่ารถบัสฝ่ากลุ่มคนที่มาต้อนรับกว่า 4 ล้านคนไม่ไหว ระหว่างเดินทางไปอนุสาวรีย์ โอเบลีสโก เด บัวโนส ไอเรส ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินเหนือแฟนบอลตามจุดต่างๆแทน

หมู่คนหลายชิ้นทำให้ขบวนพาเหรดรถเมล์โอเพ่นท็อปหยุดชะงักลง ขบวนนักฟุตบอลไม่อาจจะไปถึงอนุสาวรีย์กลางโอเบลิสโกได้ตามแผนเนื่องด้วยความไม่สาบายใจด้านความปลอดภัยเหตุเพราะขนาดของกลุ่มคน ที่สื่อท้องถิ่นประเมินว่ามีคนมากถึง 4 ล้านคน บรรดานักเตะถูกย้ายจากรถบัสพาเหรดของพวกเขาไปยังเฮลิคอปเตอร์แทน

กาเบรียล เอร์รูติ พิธีกรหญิงของประธานาหัวหน้าเขียนในทวิตเตอร์ว่า ‘แชมป์โลกกำลังบินอยู่เหนือท้องถนนด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพราะเหตุว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นรถถัดไปเนื่องมาจากความปิติยินดีที่ระเบิดขึ้น’

ภาพจากโทรทัศน์บอกให้เห็นผู้คนทั่วเมือง รวมทั้งผู้ที่รอคอยรอบๆโอเบลิสโก และบนทางหลวงที่อยู่บริเวณรอบๆพยายามที่จะมองเห็นแชมป์ที่กลับมาของพวกเขา

ฟ้าขาว

มาเทียส โกเมซ ช่างโลหะวัย 25 ปี พูดว่า “มันเป็นเรื่องที่สุดยอด มันอัศจรรย์ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับคุณในชีวิต”

ขณะที่รถบัสเปิดโล่งวิ่งไปทั่วเมือง ผู้เล่นเต้นรำและเชียร์กับแฟนๆที่วนรอบรถบัส ตำรวจต้องขวางผู้คนเพื่อให้รถสามารถเคลื่อนไปด้านหน้าได้สำหรับในการเดินทางที่ช้าไปยังใจกลางเมือง แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่อาจจะไปไกลกว่านั้นได้

‘เขาไม่ให้เราทักทายผู้คนที่อยู่ที่อนุสาวรีย์โอเบลิสโกได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คุ้มกันเราไม่อนุญาตให้เราเดินหน้าต่อไป” ชิควี ทาเปีย ประธานสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา (AFA) ทวีตในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา

ผู้คนชูธงของเมสซี่และ ดิเอโก้ มาราโดน่า เล่นเครื่องดนตรีหรือปีนเสาตะเกียงหรือป้ายรถเมล์

ถนนเริ่มโล่งหลังจากเตะกลับไปโดยบางคนรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เห็นทีมอย่างใกล้ชิด

เมืองหลวงของอาร์เจนตินาอยู่ในบรรยากาศของการฉลองตั้งแต่ความมีชัยเหนือฝรั่งเศสในรอบชิงแชมป์เมื่อวันอาทิตย์ที่กาตาร์ ซึ่งมีส่วนช่วยหันเหความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจในประเทศอเมริกาใต้ที่ต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในโลก

เกือบไป เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่าง “อาร์เจนตินา” แห่ขบวนสังสรรค์แชมป์ฟุตบอลโลก

เกิดเรื่องไม่คาดฝันระหว่างที่ทาง “อาร์เจนตินา” แห่ขบวนฉลองแชมป์ “ฟุตบอลโลก 2022” ในประเทศบ้านเกิด หลังมีนักเตะหวุดหวิดโดนสายไฟเกี่ยวคอ รวมทั้ง “ลิโอเนล เมสซี” ด้วย

วันที่ 21 ธันวาคม 65 ควันหลงหลังจากที่ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา จากการนำทัพของ ลิโอเนล สกาโลนี เถลิงบัลลังก์แชมป์ “บอลโลก 2022” ที่ประเทศกาตาร์ ได้เสร็จ หลังแม่นโทษดับ “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส 4-2 (ในเวลา 90 นาที เสมอ 2-2, จบ 120 นาที เสมอ 3-3) ทำให้เป็นแชมป์ยุคที่ 3 ในประวัติศาสตร์ และถือว่าเป็นการสิ้นสุดการรอคอยโทรฟีดังกล่าวที่ถวิลหามา 36 ปีอีกด้วย

จากความสำเร็จดังกล่าวนั้นทำให้ราษฎรชาวอาร์เจนตินาราว 4 ล้านคน มารวมตัวเพื่อต้อนรับเหล่าบรรดาวีรบุรุษของชาติกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกาลครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของพวกเขา ท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนจะปลาบปลื้ม และเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มจากการบรรลุผลคราวนี้

ทว่ากลางทางที่กลุ่มนักฟุตบอลและทีมงานนั่งรถบัสเปิดประทุนแห่ฉลองแชมป์ “บอลโลก 2022” ในประเทศบ้านเกิดไปรอบๆเมือง ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อกลุ่มนักเตะที่นั่งอยู่บนหลังคาอย่าง ลิโอเนล เมสซี, เลอันโดร ปาเรเดส, โรดริโก เดอ ปอล, อังเคล ดิ มาเรีย รวมถึง นิโคลัส โอตาเมนดี หวุดหวิดโดนสายเคเบิลเกี่ยวคอ โดยรายที่สองถึงกับต้องเสียหมวกไปจากการโดนสายเคเบิลนี้เกี่ยวอีกด้วย.

เฮลิคอปเตอร์ฉลองแชมป์

แข้ง”อาร์เจนตินา” ยกเลิกรถแห่ขึ้นฮ.สังสรรค์แชมป์โลกแทน

นักฟุตบอลอาร์เจนติน่า จะต้องสังสรรค์แชมป์โลกกับแฟนบอลทางเฮลิคอปเตอร์ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังมีแฟนบอลพยายามกระโดดรถแห่ของนักเตะ

ทัพนักฟุตบอลอาร์เจนติน่า หอบถ้วยแชมป์โลก สมัยที่ 3 กลับถึงกรุงบัวโนสไอเรสเมื่อตอนเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนที่จะเฉลิมฉลองไปยังสถานที่สำคัญต่างๆทั่วเมือง โดยมีแฟนบอลออกมาร่วมสังสรรค์ความสำเร็จกันมากกว่า 4 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลอาร์เจนติน่าได้ประกาศวันหยุดพิเศษ เพื่อแฟนบอลได้มาร่วมเฉลิมฉลองตำแหน่งแชมป์โลกที่รอมาถึง 36 ปีด้วยกัน

เดิมทีหมายกำหนดการของขบวนรถแห่จะไปจบที่ อนุสาวรีย์โอเบลิสก์โซ่ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงบัวโนสไอเรส แต่ก็ต้องถูกยกเลิกไป เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัย

“เมสซี” เกือบจะตกรถแห่ ทีมชาติอาร์เจนตินา สังสรรค์แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 โชคดีหลบสายไฟทัน

“ลิโอเนล เมสซี” เฉียดสิ้นชื่อในตอนสังสรรค์แชมป์บอลโลก 2022 ที่บ้านเกิดอาร์เจนตินา แทบถูกสายเคเบิลเกี่ยวคอตกตกรถแห่ โชคดีลอดหลบทัน

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 นักเตะและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์บอลโลก 2022 ที่กาตาร์ นำโดย ลิโอเนล เมสซี กัปตันทีม เจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ เดินทางถึงที่บ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยทันทีที่เดินทางถึงทัพนักเตะฟ้าขาวได้ขึ้นรถบัสเปิดประทุนแห่ฉลองถ้วยแชมป์ไปตามถนนหนทาง มีชาวอาร์เจนตินาหลายแสนคน ออกมารอคอยต้อนรับเหล่าฮีโร่ ก่อนมุ่งหน้าไปสู่ที่ทำการสมาคมบอลอาร์เจนตินา แม้ว่าจะเป็นตอนๆเช้าตรู่จนถึงเช้าตรู่ก็ตาม

แม้กระนั้น มีเหตุการณ์หวาดเสียวบางส่วน เมื่อนักฟุตบอลที่ขึ้นไปอยู่ด้านบนของรถบัสเปิดหลังคา นำโดย ลิโอเนล เมสซี, เลอันโดร ปาเรเดส, โรดรีโก เดอ ปอล, อังเคล ดิ มาเรีย และ นิโคลัส โอตาเมนดี แทบถูกสายเคเบิลเกี่ยวร่วงตกจากรถ โชคดีที่ทั้งหมดก้มหลบทันรถ โชคดีที่ทุกคนก้มหลบทัน

พยากรณ์อากาศวันนี้

พยากรณ์อากาศวันนี้ -24 ธ.ค.เหนือ-อีสาน หนาวเย็น อุณหภูมิลดฮวบ

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ -24 ธ.ค.เหนือ -อีสาน อุณหภูมิลดน้อยลง 3-5 องศา อากาศหนาวเย็น ส่วนกรุงเทพมหานครปริมณฑล อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศา ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นสูง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ – 24 ธ.ค. 2565 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า) ตั้งแต่ช่วงวันที่ 18 – 20 ธันวาคม 65 บริเวณความกดดันอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยรอบๆภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดน้อยลง 3 – 5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคทิศตะวันออก อุณหภูมิจะน้อยลง 2 – 4 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมรอบๆอ่าวไทย และ ทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร ทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนคะนองคลื่นสูงมากเกินกว่า 4 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังออกจะแรงยังคงปกคลุมไทยตอนบน และ ทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะมีผลให้เมืองไทยตอนบนมีอุณหภูมิเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ยังยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว และมีหมอกในตอนเวลาเช้า

อุณหภูมิลดฮวบ

พยากรณ์อากาศวันนี้ ข้อพึงระวัง

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนรักษาสุขภาพเนื่องจากว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และระวังภัยที่มีต้นเหตุมาจากลมแรงและอากาศแห้ง

ขอให้ประชากรบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมกะทันหันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

ชาวเรือรอบๆอ่าวไทย และทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความรอบคอบ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนกระทั่งวันที่ 20 ธันวาคม 2565

พยากรณ์อากาศวันนี้ -24 ธ.ค.

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ วันที่ 18 – 24 ธ.ค. 2565

กรุงเทพและปริมณฑล

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 16 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 31 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

ภาคเหนือ

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 13 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 29 องศาเซลเซียสบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียสบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 6 – 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันที่ 18 – 21 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 11 – 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 – 10 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม.

วันที่ 22 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 – 12 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

ภาคกลาง

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 14 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 30 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 16 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

พยากรณ์อากาศวันนี้ ภาคตะวันออก

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 15 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 31 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1– 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 – 3 เมตร

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบนของภาค : มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส
ตอนล่างของภาค : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 18 – 19 ธ.ค. 65 อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 32 องศาเซลเซียส

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

วันที่ 18 – 20 ธ.ค. 65

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

วันที่ 21 – 24 ธ.ค. 65

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส

งาน Big Mountain 2022

ลงทุน 2 แสน เจ๊งยับ พ่อค้าแชร์ประสบการณ์ ออกร้านครั้งแรก งาน บิ๊กเมาน์เท่น

ควันหลงงาน Big Mountain 2022 ผู้ค้าในงาน โพสต์ประสบการณ์ ลงทุนไปกว่า 2 แสน ออกร้านทีแรกในงาน แต่สุดท้ายเจ๊งหมดรูป ยอมรับผิด เพราะว่าไม่เคยไปมาก่อน

วันที่ 14 ธันวาคม65 ผู้สื่อข่าวแถลงการณ์ว่า โลกโซเชียลมีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านค้าที่ไปเปิดร้านขายข้างในเทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุดแห่งระดับประเทศ อย่าง บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิก เฟสติวัล 2022 (Big Mountain Music Festival 2022) หรือ BMMF12 ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ทำนองว่า จบงาน จบชีวิต ไปกับบิ๊กเมาน์เท่น

พร้อมอธิบายว่า การไปเปิดร้านครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่จดจำที่สุดในชีวิต เพราะเหตุว่าลงทุนไปกว่า 2 แสนบาท เงินลงทุน ก็จำเป็นต้องไปกู้มา อ้างว่าได้คำประกันจากผู้จัดงาน ที่ให้เตรียมอาหารไว้วันละ 2,500 เสิร์ฟ ก็เลยมีความคิดว่ายอดจำหน่ายงานนี้น่าจะได้เป็นแสนแน่นอน

งาน บิ๊กเมาน์เท่น

แต่เมื่อเปิดขายวันแรก กลับต้องมาพบว่า งานนี้ไม่ใช่มหกรรมคอนเสิร์ต Big Mountain 2022

แต่เป็นเหมือนงานเดินทางไกล งานแฟชั่น ฯลฯ เลอะเทอะมาก การจัดการระบบน้ำ น้ำแข็ง ห้องน้ำ ที่นั่งของลูกค้า และอื่นๆกับค่าที่ 5 หมื่นบาท สรุปว่าไม่มี

ทำให้แนวทางการขายในงานนี้ ขาดทุน ย่อยยับ และ ว่าเข็ดหลาบแล้วกับงานขายฝัน ตอนนี้เห็นอกเห็นใจเมียมาก ที่ไหนจะเจ๊ง และต้องหาเงินจ่ายและชำระหนี้

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาให้ความเห็นปริมาณมาก ทั้งแสดงความเห็นใจผู้ค้า ขณะที่บางส่วนก็เข้ามาแสดงความเห็นว่า อาหารอย่างต้มเล้ง บางครั้งอาจจะไม่เหมาะกับงานแบบนี้ เนื่องมาจากรับประทานไม่สะดวก ยิ่งไปกว่านี้ บางส่วนยังเข้ามาแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ครั้งคราวผู้ค้าบางครั้งก็อาจจะจะต้องศึกษาพื้นที่ก่อน ว่าเหมาะสมกับของกินที่ตัวเองขายหรือเปล่า

ก่อนที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก จะเข้ามาอธิบายเพิ่มเติม ถึงสาเหตุที่เลือกไปขายในงานนี้ ว่า

1. มีทีมงานติดต่อมาจากงานใหญ่ระดับประเทศ

2. ทีมงานแจ้งว่าร้านเราถูกคัดเลือกให้เข้าไปขายเล้งในงาน และทีมงานได้คัดร้านค้าเพื่อให้หลากหลาย ไม่ใช่ใครอยากไปก็ไปได้

3. คนแสนกว่าคน ขายบัตรหมดภายใน 1 วัน

4. ให้ร้านค้าเตรียมของให้พร้อมขาย ขั้นต่ำวันละ 2,500 เสิร์ฟ เพื่อให้เพียงพอต่อลูกค้า (บางร้านอ้างว่าทีมงานให้เตรียม 3,000-5,000 เสิร์ฟ)

และด้วยความมั่นใจว่าทีมงานทำการตลาดมาดี เห็นว่างานใหญ่ บวกกับทีมงานกล่าวว่า ขนาดหมูกระทะและยำยังไปเลย และว่ามีที่นั่ง มีพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ทางร้านจึงโอเค

แต่เมื่อไปถึงงานวันแรก ก็เลยรู้ดีว่าไม่ใช่ เปิดร้านมา แดดส่อง ฝุ่นเยอะ น้ำ และ ถังสำหรับใส่น้ำแข็งก็เอารถเข้ามาส่งไม่ได้ จึงล่าช้า และ ไม่เพียงพอ เราก็เปลี่ยนแปลงเมนูอาหาร แต่ประเด็นเป็น ทำอะไรก็ไม่ทันแล้ว ลำบากแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับในข้อผิดพลาดคราวนี้ ที่ไม่เป็นมืออาชีพพอ ไม่เคยไปงานดังกล่าวเลยสักหนึ่งครั้ง นี่เป็นคราวแรก มั่นใจและสำคัญตัวมากเกินไป และ ไม่เรียนรู้ให้ดีเอง หลังจากนี้ยอมรับสภาพ และ ต้องกลับมาเดินหน้าขายเล้ง หาเงินจ่ายหนี้ที่กู้ไปลงทุนต่อไป

นอกจากนั้น ยังมีคนเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ครอบครองเฟซบุ๊ก ไม่ใช่ร้านเดียวที่เจ๊ง แต่กลับเหงาหงอยทั้งโซน โดยเฉพาะโซนหัววัวกับไข่เจียว ซึ่งข้าวไข่เจียวน่าจะเป็นของกินที่ขายง่ายที่สุดของงานนี้ โดยคนส่วนใหญ่ไปกองอยู่ที่โซนหลัก ทำให้ร้านค้าบริเวณนี้แสนสาหัสกันทั่วหน้า

พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น แสดงป้ายที่ชัดเจน อยู่สูง และ มีแสงสว่างโดดเด่น, มีแผนการที่และไกด์บุ๊กแจกผู้ร่วมงานทุกคนอย่างทั่วถึง เพราะเหตุว่าในงานสัญญาณไม่ดี ต่อให้เซฟรูปแผนที่ไป แต่หน้างานมันไม่เหมือนในแผนที่เลย แนวต้นไม้ แนวกั้นก็ไม่มี พอมาหน้างานก็งง อีกทั้งไกด์บุ๊กอาหารก็จะต้องมี.

โผล่อีก ! ผู้ค้าเปิดโปง Big Mountain 2022 ระบบสุดแย่ เจ๊งยับขาดทุน 3 แสน ต้องมานั่งหาเงินจ่ายและชำระหนี้

ผู้ค้าอีกรายโผล่แฉคอนเสิร์ต Big Mountain ทีมงานระบบสุดห่วยแตก ห้ามรถน้ำเข้ากระทั่งขายของไม่ได้ แถมการันตรี 3,000 เสิร์ฟ สุดท้ายเจ๊งยับขาดทุน 3 แสน จะต้องมานั่งหาเงินจ่ายหนี้

ล่าสุด (14 ธ.ค. 2565) มีผู้ค้าอีกคนที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ เตือนคนอื่นๆให้ตัดสินใจให้ดีก่อนเข้าร่วมเป็นร้านค้างานบิ๊กเม้าท์เท่น โดยบอกว่า จุดกำเนิดมาจากการตัดสินใจส่งร้านเข้าไปคัดเลือก เนื่องจากว่าชอบไปเทศกาลดนตรีอยู่แล้ว เลยคิดว่าน่าจะทดลองส่งเข้าไปดู ได้ก็ดีแล้ว เป็นการต่อยอดธุรกิจและโปรโมตร้านไปในตัว คาดหวังกำไรบางส่วน ขอเพียงแค่ไม่ขาดทุนก็พอใจแล้ว พอถึงวันประกาศผล ทางทีมงานโทร. มาแจ้งว่าได้รับเลือกสรร

ลงทุน 2 แสน เจ๊งยับ พ่อค้าแชร์ประสบการณ์

ผังร้านค้าถูกเปลี่ยนฉับพลัน

พอใกล้วันงานมีการส่งผังร้านค้ามาใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เข้าไปข้างในลึกเข้าไปใกล้เวทีใหญ่ ให้เหตุผลว่าก่อนหน้านั้นมีฝนตกหนัก ทำให้บางพื้นที่เสียหายใช้ไม่ได้ เลยจะต้องเปลี่ยนแปลง ตรงนี้เข้าใจและคิดว่าเหตุผลพอยอมรับฟังได้ แต่คิดอีกทีก็เอ๊ะว่าแทนที่จะเลื่อนเข้าไปข้างใน เพราะเหตุใดไม่เลื่อนออกมาภายนอก เพื่อลูกค้าเข้าถึงง่าย พบร้านค้าได้เร็วขึ้น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าเพราะอะไรทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เพราะว่ามันจะไปแย่งลูกค้าของสปอนเซอร์

ความระส่ำระสายในวันงาน

พอถึงวัน set up งาน (วันที่ 9) ทางร้านสั่งน้ำดื่มทำอาหารไป 15 ถัง กะว่าจะได้เริ่มขายคนในพื้นที่งานก่อน สรุปตามน้ำถึงเที่ยงคืน น้ำไม่มาส่ง สาเหตุมาจากรถขนส่งของทางโรงงานน้ำกินเข้าพื้นที่ไม่ได้ การ์ดไม่ให้เข้า ทำให้หลายๆร้านไม่ได้รับของตามที่สั่งไว้ พอถึงวันงาน จากตอนแรกที่ประชุมร้านค้า แจ้งว่าให้นำรถยนต์เข้าโหลดของในพื้นที่ได้ช่วงเวลา 06.00-08.00 พอถึงเวลาจริงแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้าพื้นที่แล้ว จะขนของจำเป็นต้องใช้รถเข็นหรือแบกเข้างานเอง

ซึ่งพื้นที่งานเป็นหลุม แอ่งน้ำ ไม่ได้เอื้ออำนวยกับการใช้รถเข็นเลย และไม่อนุญาตให้รถน้ำดื่มกับรถน้ำแข็งเข้าพื้นที่ด้วย น้ำดื่ม 20 ลิตร 1,000 ถัง ทางผู้จัดให้โรงงานน้ำดื่มนำใส่รถเข็นส่งร้านค้าที่อยู่ห่างกันมาก ถึงมากที่สุด รถเข็นใส่ได้รอบละ 10 ถัง พอๆกับจำเป็นต้องเข็นรถอย่างต่ำ 100 รอบ ไม่ถือว่าบางร้านสั่งใส่เติมภาชนะที่นำมาเพิ่มด้วย สรุปคืนวันนั้นรถเข็นโรงงานน้ำดื่มยางแตก งานวันที่ 2 ไม่มีน้ำส่งให้ร้านค้า

ร้านหมูกระทะ แทบเจ๊ง

ร้านหมูกระทะ แทบเจ๊ง โซเชียลโยงข่าวหมูแช่ฟอร์มาลีน จาก 100 โต๊ะ เหลือลูกค้าโต๊ะเดียว

ร้านหมูกระทะ ชลบุรีเกือบจะเจ๊ง โซเชียลโยงข่าวหมูแช่ฟอร์มาลีน จาก 100 โต๊ะ เหลือลูกค้าโต๊ะเดียว ยันซื้อวัตถุดิบจากห้างดัง

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง ร้านเจ๊น้อย หมูย่างเกาหลี ตั้งอยู่ริมถนนศุขประยูร ขาเข้าพนัสนิคม ช่วงสะพานรางรถไฟดอนหัวฬ่อ หมู่ 2 ตำบลดอนหัวฬ่อ อำเภอเมือง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องสื่อจาก นายธวัฒน์ชัย บุญสูงเนิน อายุ 52 ปี เจ้าของร้านเจ๊น้อย หมูย่างเกาหลี ว่า หลังจากที่มีข่าวพบหมูแช่สารฟอร์มาลีน ส่งตามร้านหมูกระทะ และ มีเกรียนคีย์บอร์ดได้เอาชื่อของร้านเจ๊น้อย หมูกระทะ ไปคอมเมนต์ในเพจต่างๆทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด

และหลังจากที่เป็นข่าวทำเอาลูกค้าหายหมดจดไม่มีลูกค้ามาตลอดนานนับเป็นเวลาหลายวัน ได้รับความทุกข์ร้อนหนัก โดยบรรยากาศข้างในร้านพบมีโต๊ะประมาณ 100 โต๊ะ พบว่ามีลูกค้าที่มารับประทานแค่โต๊ะเดียว

จากการสอบถาม นางสาวเดือนเพ็ญ ลูกค้าที่มารับประทานเปิดเผยว่า หลังจากที่รู้ข่าวว่าพบหมูแช่ฟอร์มาลีนส่งตามร้านหมูกระทะ ตนก็ตกใจ เพราะว่าปกติชอบทานอยู่แล้ว แต่ตนได้มาทานที่ร้านเจ๊น้อยเพราะว่ามั่นใจในวัตถุดิบ เพราะว่าทางร้านได้ลงเพจแจกแจงว่าวัตถุดิบซื้อมาจากห้างดังที่เชื่อถือได้ มาหมักด้วยสูตรของทางร้าน และตนก็มาทานประจำ หมูสดใหม่ และ น้ำจิ้มก็อร่อยทำให้มั่นใจทุกหนที่มา และวันนี้ก็ได้พาลูกและครอบครัวมาทานที่ร้าน ตนก็การันตีว่าร้านเจ๊น้อยไม่ใช่ร้านที่เอาของไม่ดีมาขายแน่นอน เพราะว่าตนก็เป็นลูกค้ามานานนับเป็นเวลาหลายปี

ทางด้านนายธวัฒน์ชัย เจ้าของร้านเปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวว่าพบหมูแช่ฟอร์มาลีนใน จ.ชลบุรี แล้วมีคนไปคอมเมนต์ว่า ร้านเจ๊น้อย ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดและได้รับผลพวงมากจากปกติลูกค้านั่งทานวันละ 20-30 โต๊ะ ทุกวันนี้มีเพียงแค่วันละ 1 โต๊ะบ้าง 2 โต๊ะบ้างทำให้เดือดร้อนอย่างมาก เพราะว่าข่าวที่ออกไปว่าทำส่งร้านหมูกระทะในชลบุรี ทำให้คนคิดเหมารวมกันหมด และยังมีพวกที่ไม่เคยทราบไปลงชื่อของร้านตนจนถึงเสียหาย ตอนนี้ร้านกว่า 20 สาขากระทบหนักเพราะว่าลูกค้าไม่กล้าเข้ามานั่งทาน และไม่ใช่แค่ร้านเจ๊น้อยและยังมีอีกหลายร้านที่ขายหมูกระทะได้รับผลพวงเหมือนกัน

ตนการันตีว่าไม่มีส่วนเอาของจากร้านที่เป็นข่าวแน่นอน เพราะว่าตนมีหลักฐานสำหรับเพื่อการซื้อวัตถุดิบจากห้างมากว่า 10 ปี แล้วสามารถเช็คได้เลย ตนต้องการที่จะให้ลูกค้ากลับมาทานอย่างเดิมและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเพราะว่าวัตุดิบนั้นได้สั่งและคัดมาโดยยิ่งไปกว่านั้นเน้นสดใหม่ มาหมักด้วยสูตรของทางร้าน และ น้ำจิ้มก็เป็นของทางร้านทำเอง ตนก็อยากฝากถึงโชเชียลหรือสื่อออนไลน์ต่างๆเวลาลงข้อมูลควรลงให้แจ่มแจ้งไม่ใช่ลงให้คนคิดไปกันเอง แล้วมาคอมเมนต์ว่าร้านบุคคลอื่นแบบไม่มีข้อมูลเพราะว่าทำให้ได้รับความเสียหายไปกันหมด

ร้านหมูกระทะ จาก 100 โต๊ะ เหลือลูกค้าโต๊ะเดียว

ร้านหมูกระทะ เมืองชลตกระกำลำบาก ลูกค้าหาย ผวาข่าวหมูแช่ฟอร์มาลีน

นายธวัฒน์ชัย บุญสูงเนิน อายุ 52 ปี เจ้าของร้านเจ๊น้อย หมูย่างเกาหลี จังหวัดชลบุรี ชี้แจง การันตีว่า ร้านตนไม่เกี่ยวข้องกับหมูแช่สารฟอร์มาลีนที่เป็นข่าว แต่โดนคนเอาไปโจมตี จนถึงลูกค้าหายเกลี้ยง ไม่มีใครมากินนับเป็นเวลาหลายวันแล้ว จาก 100 โต๊ะที่รองรับไว้บางทีก็มีมากินโต๊ะเดียว

นายธวัฒน์ชัย เผยว่า ร้านตนได้รับผลพวงจากประเด็นนี้มาก ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะว่ามีข่าวว่า ส่งร้านหมูกระทะในชลบุรี คนไปเหมารวมร้านตน จนถึงตอนนี้ 20 สาขาที่เปิดกระทบหนัก การันตีว่า วัตถุดิบที่สั่งมากนั้น เอามาจากห้างสรรพสินค้า และ ซื้อกันมากว่า 10 ปีแล้ว สามารถเช็กได้ ตอนนี้ต้องการที่จะให้ลูกค้ามั่นใจกลับมาทานอย่างเดิม พวกเรามีสูตรและหมักน้ำจิ้มเอง ตอนนี้เสียหายกันไปหมดแล้ว

ด้านลูกค้าที่มากินเผยว่า ตนชอบทานร้านนี้ เพราะว่ามั่นใจวัตถุดิบ ตอนมีข่าวก็ตกใจ แต่มองเห็นเขาแจกแจงทางเพจว่าซื้อจากห้างมา และมาหมักเอง ก็เชื่อใจ เพราะว่าพวกเรารับประทานก็หมูสดใหม่ น้ำจิ้มอร่อย ตนเป็นลูกค้ามานานนับเป็นเวลาหลายปี เชื่อว่าร้านไม่น่าจะนำของไม่ดีมาขายแน่

ขณะที่ล่าสุด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ออกมาเผยผลตรวจ ตัวอย่างเนื้อสัตว์แช่แข็งในร้านหมูกระทะ พื้นที่อำเภอเมืองชลบุรี 25 ตัวอย่าง ประกอบด้วย หมึกกรอบ / สไบนาง / หมูสด / หมูปรุงรส / ตับหมู / ไส้ตัน / ไตหมู และแมงกะพรุน เบื้องต้นพบฟอร์มาลีน ในตัวอย่างหมึกกรอบ 7 ตัวอย่าง และสไบนาง 3 ตัวอย่าง ส่วนอาหารชนิดอื่น ตรวจไม่พบทุกตัวอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะส่งตัวอย่างของกินทั้งหมด ไปส่งไปเพื่อทำการตรวจการันตีผลอีกครั้ง นอกเหนือจากนี้ เจ้าหน้าที่จะด้วยกันออกสุ่มเพิ่มเติมเป็นระยะ ในทุกพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ร้านหมูกระทะ โซเชียลโยงข่าวหมูแช่ฟอร์มาลีน

ร้านดังเมืองชล ยันไม่เคยใช้หมูแช่ฟอร์มาลีน บอบช้ำกระทบหนัก ลูกค้าหาย

บอบช้ำยิ่งกว่าโต๊ะริม ร้านดังเมืองชล ยันไม่เคยสั่งหมูแช่ฟอร์มาลีน เผยคนแชร์มั่ว จนถึงกระทบหนัก ลูกค้าหาย จาก 100 โต๊ะ เหลือมากินโต๊ะเดียว

วันที่ 12 เดือนธันวาคม2565 นายธวัฒน์ชัย บุญสูงเนิน อายุ 52 ปี เจ้าของร้านเจ๊น้อย หมูย่างเกาหลี จ.ชลบุรีร้องกับทางข่วาสด การันตีว่าร้านตนไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแช่สารฟอร์มาลีน ที่เป็นข่าว แต่โดนคนเอาไปโจมตี จนถึงลูกค้าหายเกลี้ยง ไม่มีใครมากินนับเป็นเวลาหลายวันแล้ว 100 โต๊ะที่รองรับไว้บางทีก็มีมากินโต๊ะเดียว

นายธวัฒน์ชัยเผยว่า ร้านตนได้รับผลพวงจากประเด็นนี้มาก ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะว่ามีข่าวว่าส่งร้านหมูกระทะในชลบุรี คนไปเหมารวมร้านตน จนถึงตอนนี้ 20 สาขาที่เปิดกระทบหนัก

การันตีว่าวัตถุดิบที่สั่งมากนั้น เอามาจากห้างสรรพสินค้า และซื้อกันมากว่า 10 ปีแล้ว สามารถเช็กได้ ตอนนี้ต้องการที่จะให้ลูกค้ามั่นใจกลับมาทานอย่างเดิม พวกเรามีสูตรและหมักน้ำปรุงรสเอง ตอนนี้เสียหายกันไปหมดแล้ว

ด้านลูกค้าที่มากินเผยว่า ตนชอบทานร้านนี้ เพราะว่ามั่นใจวัตถุดิบ ตอนมีข่าวก็ตกใจ แต่มองเห็นเขาแจกแจงทางเพจว่าซื้อจากห้างมา และมาหมักเอง ก็เชื่อใจ เพราะว่าพวกเรารับประทานก็หมูสดใหม่ น้ำจิ้มอร่อย ตนเป็นลูกค้ามานานนับเป็นเวลาหลายปี เชื่อว่าร้านไม่น่าจะนำของไม่ดีมาขายแน่

ซามูเอล เบตแมน จับหัวหน้าลัทธิ ภรรยา 20 คน

“ซามูเอล เบตแมน” เจ้าลัทธิในสหรัฐฯ ผู้มีภรรยา 20 คน

จับเจ้าลัทธิ ผู้มีภรรยา 20 คน ชายที่สมมติตัวเองเป็นศาสดาในสหรัฐฯ มีภรรยามากยิ่งกว่า 20 คน รวมทั้งบางบุคคลอายุไม่ถึง 18 ปี

สำนักซักถามกลางแห่งสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ บอกว่า ซามูเอล แรปปีลี เบตแมน (Samuel Rappylee Bateman) อ้างถึงว่า เป็นพระโองการจากพระเจ้าให้เขาร่วมเพศกับเหล่าภรรยาของเขา

ปัจจุบัน เบตแมน อายุ 46 ปี เขาถูกทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อกล่าวหาเมื่อเดือน ก.ย. ก่อนหน้านี้ ฐานทำลายบันทึกข้อมูล รวมทั้งกีดกันการกระทำงานของเจ้าหน้าที่ กรณีการสืบสวนว่า มีการลักลอบค้ามนุษย์ ส่งเด็กข้ามเมืองเพื่อบำเรอกามหรือเปล่า

ต่อมา เอฟบีไอได้เปิดเผยเอกสารเบิกความ ที่ให้รายละเอียดของตัวเบตแมน ซึ่งสื่อมวลชนมีความสนใจเป็นอย่างมาก

เอฟบีไอ ตรวจสอบแล้วก็พบว่า เบตแมน เป็นอดีตสมาชิกโบสถ์สาขาย่อยของ Fundamentalist Church of Jesus Christ of Latter-Day Saints แปลว่า

จับหัวหน้าลัทธิ ภรรยา 20 คน

“ศาสนจักรมูลฐานนิยมของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย”

หรือ โบสถ์เอฟแอลดีเอส ซึ่งเป็นนิกายที่แยกออกมาจากศาสนจักรมอร์มอน ก่อนที่เขาจะออกมาตั้งกลุ่มลัทธิของตน

เจ้าหน้าที่บอกว่า เบตแมนได้รับการส่งเสริมทางการเงินจากผู้ติดตาม ที่ยินยอมมอบภรรยารวมทั้งบุตรสาวของตนเอง ให้เป็นภรรยาของเบตแมน

รวมทั้งถ้ามีสมาชิกคนใด ไม่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นศาสดา เขาก็จะลงโทษอย่างรุนแรง โดยเมื่อเดือน สิงหาคม ตำรวจจับตัวเบตแมน หลังพบว่า เขาใช้รถพ่วงลากถูเด็กหญิง 3 คน อายุ 11-14 ปี

แม้เขาจะยื่นประกันตัวออกไปได้ แต่ต่อมาก็ถูกจับตัวอีก ฐานทำลายบันทึกข้อมูลรวมทั้งกีดกันการกระทำงานของเจ้าหน้าที่

ก่อนหน้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองเด็กแห่งเมืองแอริโซนา ได้ช่วยเหลือเด็กหญิง 9 คน ออกจากลัทธิของเบตแมน แล้วส่งไปอาศัยยังสถานสงคราะห์เด็ก แต่ภายหลัง เด็กหญิง 8 คนได้หลบหนีออกมาจากสถานสงเคราะห์ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว

เจ้าหน้าที่รัฐวอชิงตัน ติดตามตัวพวกเขากลับมาได้ หลังมีเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์คันหนึ่งที่หนึ่งในภรรยาของเบตแมน ขับรถอยู่ โดยเมื่อเข้าไปพิจารณา จึงพบว่า คนขับรถ รวมทั้งผู้โดยสารที่เป็นภรรยาอีก 2 คนของเบตแมน พยายามลักพาตัวเด็กเหล่านี้กลับไป ซึ่งคดีนี้ ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน

เมื่อตำรวจสอบปากคำภรรยาคนที่เป็นคนขับขี่รถยนต์ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว พบว่า เธอกลายเป็นภรรยาของเบตแมน ในขณะที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี รวมทั้งออกลูก หลังอายุเข้า 18 ปีได้เพียง 7 เดือน

อย่างไรก็ดี เมื่อเจ้าหน้าที่สอบปากคำเด็กหญิง 9 คนที่เป็นภรรยาของเบตแมน พวกเขาไม่ได้กล่าวถึงการก่ออาชญากรรมทางเพศโดยเบตแมนแต่อย่างใด โดยกำหนดเพียงว่า มีสัมพันธ์สวาทกับเขา

ศูนย์กฎหมายแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ระบุว่า “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย” นับว่าเป็นกลุ่มที่ปลุกปั่นความชิงชังในสหรัฐฯ โดยเมื่อปี 2011 แกนนำของศาสนจักรแห่งนี้ ถูกตัดสินลงโทษติดตะรางทั้งชีวิต ฐานทำร้ายเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน ที่เขารับมาเป็นภรรยา

นอกจากเรื่องเพศสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ยังกำหนดเหตุว่า เบตแมนเคยให้ภรรยาเป็นของขวัญกับสาวกผู้ชาย โดยอ้างถึงว่าเป็นคำสั่งจาก ‘พระบิดาจากสรวงสวรรค์’ เหมือนกัน ในช่วงเวลาที่สาวกก็เกื้อหนุนเบตแมนด้วยการมอบเงิน รวมถึงมอบภรรยารวมทั้งลูกของตนเองให้มาเป็นภรรยาของแบตแมน

จับหัวหน้าลัทธิ ภรรยา 20 คน

จับเจ้าลัทธิ ผู้มีภรรยา 20 คน FBI ยังกล่าวหาด้วยว่า เบตแมนจะลงโทษสาวกที่ไม่ปฏิบัติกับเขาในฐานะศาสดา

ก่อนหน้าที่ผ่านมา เบตแมนถูกจับเมื่อส.ค.ก่อนหน้านี้ ในขณะที่กำลังเข็นรถพ่วงกับเด็กหญิง 3 คน อายุ 11-14 ปี ต่อมาเขาได้รับการประกันตัว แต่ก็ถูกจับกุมอีกในกันยายน ข้อหาทำลายหลักฐาน

ข้อหาดังที่กล่าวถึงมาแล้ว เกิดจากการที่เขาสั่งให้สาวกเข้าไปลบแอพฯ Signal ของเขาเอง ซึ่งเป็นช่องทางที่เขาใช้ติดต่อกับสาวกรวมทั้งภรรยาของเขา ส่วนกรณีของการก่ออาชญากรรมทางเพศ เอกสารของ FBI ก็บอกว่า มีความเป็นไปได้ที่เขามีเคยร่วมเพศกับเยาวชนในอดีต

ก่อนหน้าที่ผ่านมา เบตแมนเคยเป็นสมาชิกในสาขาหนึ่งของคริสตจักรที่เรียกว่า ‘Fundamentalist Church of Jesus Christ of Latter-Day Saints’ หรือ ‘FLDS Church’ ซึ่งแยกมาจากลัทธิมอร์มอนอีกที ก่อนที่เขาจะแยกตัวออกมาตั้งลัทธิเองในที่สุด

เบตแมนยังมีความเกี่ยวข้องในฐานะสาวกของ ‘วอร์เรน เจฟฟ์ส’ (Warren Jeffs) เจ้าลัทธิ FLDS Church ที่ถูกตัดสินติดตะรางตลอดชีวิตในเมืองเท็กซัส ข้อหาก่ออาชญากรรมทางเพศเด็กด้วย แต่เจฟฟ์สก็เคยเขียนประกาศตัดไมตรีกับเบตแมนจากในเรือนจำ

ในช่วงเวลานี้ เบตแมนยังปฏิเสธรับทั้งยังในข้อหาล่วงละเมิดเด็ก รวมทั้งข้อหาทำลายเอกสารหลักฐาน ซึ่งสำหรับข้อหาหลัง จะมีการสืบสวนในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ส่วนในตอนนี้เขาก็ยังถูกขังอยู่ที่เรือนจำในเมืองแอริโซนาถัดไป

บุกจับ หมอปลอม

บุกถึงเตียงคลินิก จับ 8 หมอปลอม หลอกเสริมความงาม อึ้ง! บางรายเรียนจบแค่ ป.6

ตำรวจสอบสวนกลางร่วม สบส. – สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเปิดยุทธการ “หยุดเถื่อน” ปราบ “หมอปลอม” ตรวจค้น 8 จุด จับ 8 หมอปลอม พบ 1 ในนั้นจบเพียงแค่ ป.6

(6 ธันวาคม65) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

และก็นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภญอรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศูนย์จัดการ เรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ร่วมกันแถลงผลงานจับกุมกวาดล้างหมอเถื่อนและก็คลีนิกเสริมความงามเถื่อน เบื้องตันมีการฟ้องร้องคดีกับผู้ต้องหา 8 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง 836 รายการ

เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและก็ สบส. ให้สืบสวนกรณีมีบุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์หลอกเสริมความงามให้ประชาชนในหลายพื้นที่ ระหว่างวันที่ 23-29 พฤศจิกายน 2565 จึงทำการสอบสวนแล้วก็ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, สบส. และก็ สสจ. ประจำแต่ละจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจค้นพื้นที่กรุงเทพมหานคร,ชลบุรี, จังหวัดสมุทรสงคราม และก็ จังหวัดปทุมธานี รวมทั้งหมด 8 จุด ตรวจยึดของกลาง 836 รายการ โดยเป็นสถานพยาบาลที่ไม่ได้รับอนุญาต 4 แห่ง ตรวจยึดของกลาง 836 รายการ เป็นยาและก็เวชภัณฑ์ 109 รายการ, อุปกรณ์ทางการแพทย์และก็อุปกรณ์สำหรับในการตรวจคนตรวจรักษา 57 รายการ, เวชระเบียน 670 รายการ

คลินิกผิดกฎหมาย

ฟ้องร้องคดีกับผู้ต้องหา(หมอปลอม) ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต 8 ราย

โดยผู้ต้องหา 8 รายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อยู่ ระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ 2 ราย, ปริญญาตรี 1 ราย, มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3 ราย ประกาศณียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 1 ราย และก็ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ราย

1.นางสาวธนัศร (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไมได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา โดยเรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วก็อาศัยประสบการณ์ ที่เคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลมาก่อน ซึ่งทำมาแล้วราว 1 ปี

  1. นางสาวศรีษุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี (ทำการรักษานอกเวลาที่ขออนุญาต) ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” โดยเรียนจบระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง แล้วก็ทำมาแล้วราว 6 ปี
  2. นางสาวณปาภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไมใด้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา แล้วก็ขายอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” เรียนจบระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ โดยทำมาแล้วราว 5 ปี

4.นายจิรัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยทำมาแล้วราว 1 ปี

นางสาวศศิพัชร์ (สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ” เรียนจบระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ โดยทำมาแล้วราว 1 ปี

  1. นายกรกรต (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” เรียนจบระดับปริญญาตรี โดยเคยมีประสบการณ์การทำงานในสถานพยาบาลมาก่อน จากนั้นมาเปิดคลินิกแล้วก็ตรวจรักษาเอง
  2. นางสาวบุญพา(สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยศึกษาวิธีการฉีดเสริมความงามด้วยตัวเองจากช่องทาง YouTube แล้วต่อจากนั้นสั่งยาต่างๆ จากช่องทางออนไลน์แล้วก็ทดลองฉีดหน้าตัวเองก่อนในช่วงแรก
  3. นางสาว(สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีประสบการณ์เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์มาก่อน แล้วก็ทำมาแล้วราว 3 เดือน

สถานพยาบาลเถื่อน

นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ บอกว่า

การฉีดสารเสริมความงาม ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ นั้น ถือเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะต้องให้บริการ โดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ แล้วก็กระทำในสถานพยาบาล ที่ถูกตามกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการเดินสาย ให้บริการนอกสถานพยาบาลแต่อย่างใด ถ้าพบเห็นการให้บริการฉีดเสริมความงามนอกสถานที่ ขอให้ตั้งข้อหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ซึ่งการฉีดสารเสริมความงาม ด้วยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์นั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพซึ่งอาจมีความรุนแรงถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิต จากการที่สารเสริมความงามรั่วไหล เข้าไปอุดตันในเส้นเลือด หรือเกิดการติดเชื้อ

กรม สบส.จึงขอเน้นย้ำให้เลือกรับบริการที่เกี่ยวข้องกับด้านความงามกับสถานพยาบาล ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยก่อนรับบริการก็ควรจะตรวจสอบหลักฐาน 5 ประการ ซึ่งสถานพยาบาลจะต้องแสดง ได้แก่ 1. ป้ายชื่อคลินิกต้องแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก 2. มีการแสดงใบอนุญาตเปิดกิจการคลินิก เลขใบอนุญาตต้องตรงกับเลขที่ที่ติดที่ป้ายชื่อคลินิก 3. มีการแสดงใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล 4. มีการแสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมคลินิกที่เป็นปีปัจจุบัน และ 5. มีการแสดงหลักฐานของแพทย์ที่ให้บริการในคลินิก โดยมี ชื่อ-นามสกุล และภาพถ่ายติดที่หน้าห้องตรวจ

โดยสามารถตรวจสอบชื่อสถานพยาบาลได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลแล้วก็การประกอบโรคศิลปะ (www.mrd-hss.moph.go.th) แล้วก็ตรวจสอบชื่อแพทย์ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา (w.w.tmc.or.th) ถ้าไม่พบ หรือสถานพยาบาลแสดงหลักฐานไม่ครบถ้วน ไม่สมควรเข้ารับบริการ และก็ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วนกรม สบส. 1426 หรือทาง เบอร์โทร 02 193 7000 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.อนันนต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมาให้พี่น้องประชาชนว่า ตรวจสอบข้อมูลสถานพยาบาล แพทย์และก็ขั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการที่เกี่ยวข้องกับด้านความงามเพราะการเสริมความงาม เป็นขั้นตอนและก็วิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางแล้วก็เกิดผลกระทบกับร่างกายโดยตรง แล้วก็แจ้งเตือนไปยังคนที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือสถานพยาบาลเถื่อน หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวในทันที เพราะเหตุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ฟ้องร้องคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

หมอของขวัญ แจงดราม่า สะกิด แจ็คสัน หวัง

หมอของขวัญ แจงดราม่า สะกิด ‘แจ็คสัน หวัง’ งานปาร์ตี้ ยอมรับพลาด นึกว่าจอยๆกัน

จากกรณีดราม่าอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อหมอของขวัญ หรือ พ.ญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แพทย์ผิวหนัง ได้ไปร่วมงานปาร์ตี้ แจ็คสัน หวัง กับเหล่าเซเลบริตี้ไทย ซึ่งภายในงานมีการเดินกรอกแอลกอฮอล์ให้กับเหล่าเซเลบริตี้ชาย ในงานอย่างสนุกสนาน ก่อนที่หมอของขวัญ จะสะกิดให้กรอกให้ตนบ้าง แต่ แจ็คสัน ก็ส่ายหน้าและไม่ได้กรอกให้

ทั้งนี้ เหล่าแฟนคลับคิดว่าเป็นการให้เกียรติฝ่ายหญิง ต่อมีการแชร์คลิปดังที่กล่าวถึงแล้ว จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. มอของขวัญ หรือพ.ญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แพทย์ผิวหนังโพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงดราม่าแจ็คสัน หวัง ระบุว่า วันนี้ทีมงานหมอให้หมออ่านคอมเมนต์ในติ๊กต็อก และเพจแฟนคลับแจ็คสัน หวัง บางคนด่าทอหมอแรงมาก เรื่องสะกิดพี่แจ็คในงาน รวมทั้งหัวข้อการนั่งดูคอนเสิร์ตในห้องกระจก

หมอขอชี้แจงก่อนว่า ตัวหมอเองเข้างานคอนเสิร์ตโดยบัตรโคสปอนเซอร์ ซึ่งห้องกระจกนี่ก็ทะลุไปนั่งโซนเดียวกับบัตรอื่นในฮอลล์ แต่หมอติดสัมมนากับผู้บริหารก่อนเริ่มคอน ก็เลยจะต้องนั่งปิดประตูในนั้นเพราะเสียงดัง พอคอนเริ่มไฟในห้องจะดับ หมอก็ออกไปนั่งในฮอลล์ปรกติค่ะ เพราะรักและชอบใน Jackson Wang ถึงได้เสนอให้บริษัทในกลุ่มพันธมิตรร่วมเป็นผู้สนับสนุนคอนเสิร์ต หมอไม่เคยเคลมเรื่องซื้อบัตรนะคะ พวกเรามีวิธีการซัพพอร์ตศิลปินได้หลายวิธีค่ะ

ส่วนเรื่องต่อแถวกรอกเหล้า ชนแก้วในปาร์ตี้ หมอไม่รู้จักมาก่อน เพราะก็เพิ่งจะเคยถูกใจศิลปินเกาหลีชายเป็นครั้งแรก (ไม่ใช่เชื้อชาตินะคะ แต่ดังมาจาก Got7 ที่เป็นวงบอยแบนด์เกาหลี อารมณ์แบบลิซ่า) ว่าเขามีธรรมเนียมไม่แตะต้องสีกา (น้องๆเขียนแบบนี้) พลาดจริงๆก็นึกว่าจอยๆกันในปาร์ตี้สนุกๆไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อ่ะวิ ในอนาคตจะรอบคอบให้มากขึ้นค่ะ

สำหรับอากาเซ่ที่ด่าทอหมอแรงมากๆก็เข้าใจในความรักและหวงในตัวศิลปิน แต่ก็ต้องการที่จะให้อ่านโพสต์นี้ที่หมอชี้แจงนะคะ พวกเราจะได้เข้าใจกันมากขึ้น

แจ็คสัน หวัง งานปาร์ตี้

หมอของขวัญ ชี้แจงกรณี ดราม่า แจ็คสัน หวัง GOT7 หลังโดยกระหน่ำยับ

เปลี่ยนเป็นกรณี ดราม่า ขึ้นมาทันที เมื่อโซเชียลมีการปรากฏคลิปวิดีโอขณะที่ หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ อยู่ในปาร์ตี้ร่วมกับ นักร้อง ชายหนุ่มสุดฮอตอย่างแจ็คสัน หวัง GOT7 ภายหลังจบ เวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 IN BANGKOK

โดยในคลิป หมอของขวัญ ได้ร่วมตั้งแถวต่อคิว ให้ชายหนุ่มแจ็คสัน หวัง กรอกแอลกอฮอล์ใส่ปาก แต่กลับโดนเมิน ซึ่ง หมอของขวัญ ก็ยังคงสะกิดแจ็คสัน หวัง เพื่อให้เอาแอลกอฮอล์กรอกปากตนอยู่บ่อยมาก แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

ทำให้ผู้คนจำนวนมากออกมาติชมกันอย่างหนัก ว่าการกระทำของ หมอของขวัญ ไม่เหมาะสม หากเป็นแฟนคลับแจ็คสัน หวัง จริงจะทราบดีว่าชายหนุ่ม แจ็คสัน จะให้เกียรติสตรี โดยจะไม่สัมผัสตัวแบบไม่เหมาะสม หรือนำแอลกอฮอล์กรอกปากผู้หญิงเด็ดขาด

รีวิวคอนเสิร์ต “แจ็คสัน หวัง” ศิลปินผู้ตั้งใจจริงที่จะเป็นนักสร้างความสบายให้ผู้ชม

คอนเสิร์ตแจ็คสัน หวัง (Jackson Wang) ในไทย จบลงไปแล้ว สำหรับ “JACKSON WANG MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 BANGKOK” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25-27 พ.ย.ที่ผ่านมาในอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เรียกได้ว่าเป็นโชว์ระดับการปรากฏที่จัดเต็มถึง 3 วัน และประเทศไทยได้เปลี่ยนเป็นจุดมุ่งหมายทางปลายแรกที่แจ็คสัน หวัง เลือกมาเปิดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์

Magic Man

“Magic Man” อัลบั้มใหม่ล่าสุดของแจ็คสัน หวัง ที่ขนเพลงดังมาโชว์จัดเต็ม

“Magic Man” เป็นชื่ออัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ของแจ็คสัน หวัง (Jackson Wang) หนึ่งในสมาชิกวง GOT7 ที่ปล่อยให้ฟังอย่างเป็นทางการในกันยายนที่ผ่านมา อัลบั้มสามารถทะยานสู่ชาร์ตสูงสุดอันดับ 5 ในประเทศเกาหลีใต้ และอันดับ 15 ของชาร์ตเพลง Billboard 200 ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายเพลง Team Wang Records

ซึ่งแจ็คสัน หวัง ได้ร่วมทำหน้าที่โปรดิวซ์ด้วยตัวเอง ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกในทางของการทดสอบทางดนตรีและซาวนด์ใหม่ๆที่ถือได้ว่าเป็นการพิสูจน์ตัวตนและความรู้ความเข้าใจอีกขั้นในฐานะศิลปินผู้เดียวของแจ็คสัน หวัง

สำหรับได้แรงบันดาลใจของอัลบั้ม “Magic Man” มาจากภาพยนตร์เรื่อง Inception (2010) ของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน โดยต้องการที่จะให้แฟนๆดูดนตรีเป็นศิลปะที่มีความเป็นอิสระ แปลความหมายได้หลายรูปแบบ ทุกคนสามารถเชื่อมโยงได้กับประสบการณ์และมุมมองของตนเองได้ ทั้งด้านมืดมนและด้านสว่าง

นอกเหนือจากนั้น ยังได้รับแรงบันดลใจจาก “Prince” ศิลปินชื่อดังระดับตำนานชาวอเมริกัน ทำให้มู้ดแอนด์โทนของอัลบั้ม Magic Man เต็มไปด้วยเสน่ห์ของกลิ่นร็อกยุค 70s ที่กระปรี้กระเปร่า รวมเสียงเพอร์คัชชันหนักๆและริฟฟ์กีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับการแสดงด้วยศิลปะสมัยใหม่และการเต้นแบบร่วมยุค

ในส่วนของเนื้อหาเพลงจะเปรียบเสมือนการเล่าเรื่องราวชีวิตของคนๆ หนึ่งที่ต้องผ่านช่วงเวลาที่หลากหลายในชีวิต เริ่มตั้งแต่การค้นหาตัวเอง การเดินตามความฝัน การเผชิญกับความผิดหวังและความโดดเดี่ยวระหว่างเส้นทาง สุดท้ายแล้วก็จะนำไปสู่การเรียนรู้และทำความเข้าใจ พร้อมเชื่อมั่นและอ้าแขนรับ “ความหวัง” ที่เชื่อกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงอาจกล่าวได้ว่าอัลบั้ม “Magic Man” ก็เปรียบเสมือนไดอารี่ส่วนตัวที่เขาเลือกใช้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตในช่วงวัยรุ่น การเป็นศิลปินฝึกหัด รวมไปถึงความอ้างว้างหลังต้องห่างกับเมมเบอร์คนอื่นๆ ในวง GOT7 ซึ่งเขาเชื่อว่าความรู้สึกต่างๆ ระหว่างเส้นทางเหล่านี้ ล้วนมีความเป็นสากลที่สามารถเชื่อมโยงกับแฟนเพลงอีกหลายๆ คนได้นั่นเอง

ศึกฟุตบอลโลก 2022 สรุปสถานการณ์ล่าสุด

สรุปสถานการณ์ล่าสุด กลุ่ม G-H พร้อมเงื่อนไขเข้ารอบ-ตกรอบ ศึกฟุตบอลโลก 2022

วันอังคารที่ 29 พ.ย. 2565 ควันหลงหลังจากศึก ฟุตบอลโลก 2022 วันที่ 9 ของทัวร์นาเมนต์ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลการแข่งขันเมื่อคืนมีทั้ง 4 คู่ 4 สนาม โดยมีผลแพ้ชนะ 3 คู่ และอีก 1 คู่เสมอกันไปอย่างสุดมัน

โดยผลการแข่งขันทั้งหมดมีดังนี้

กลุ่ม G

บราซิล 1-0 สวิตเซอร์แลนด์

เซอร์เบีย 3-3 แคเมอรูน

ในกลุ่มนี้ บราซิล มี 6 คะแนน นำจ่าฝูงและเข้ารอบถัดไปแน่นอนแล้ว ตามมาด้วย สวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 มี 3 คะแนน ส่วนอันดับ 3-4 ทั้ง เซอร์เบีย และ แคเมอรูน มี 1 คะแนนเสมอกัน

นอกนั้น ถ้าหากสรุปเงื่อนไขการเข้ารอบของแต่ละทีมในกลุ่ม G จะออกมาดังนี้

บราซิล

-เข้ารอบ 100% แล้ว และต้องการอีก 1 คะแนนเพื่อยืนยันแชมป์กลุ่ม

สวิตเซอร์แลนด์

-ต้องการความมีชัยเพื่อยืนยันเข้ารอบ 100%

-ถ้าหากเสมอ*

1.ต้องลุ้นให้ บราซิล ชนะ แคเมอรูน เพื่อจะเข้ารอบในอันดับที่ 2 ของกลุ่ม แคเมอรูน ชนะ บราซิล จะต้องมาวัดประตูได้เสียกันอีกทีเพื่อหาทีมเข้ารอบอันดับ 2

-ถ้าหากแพ้ ตกรอบทันที

เซอร์เบีย

-ต้องการชัยชนะเหนือ สวิตเซอร์แลนด์ และ ต้องลุ้นให้ แคเมอรูน แพ้ บราซิล จะยืนยันเข้ารอบถัดไปแน่นอน

-ถ้าหากเสมอ/แพ้ ตกรอบทันที

แคเมอรูน

-ต้องการชัยชนะเหนือ บราซิล ในเกมสุดท้าย เพื่อข้อตกลงตั้งแต่นี้ต่อไป

1.ถ้าหาก เซอร์เบีย ชนะ จะต้องไปวัดประตูได้เสียกันเพื่อหาทีมเข้ารอบอันดับ 2

2.ถ้าหาก เซอร์เบีย เสมอกับ สวิตเซอร์แลนด์ จะต้องไปวัดประตูได้เสียกับ สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหาทีมเข้ารอบอันดับ 2

3.ถ้าหาก สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ ตกรอบทันที

กลุ่ม H

โปรตุเกส 2-0 อุรุกวัย

เกาหลีใต้ 2-3 กานา

ในกลุ่มนี้ โปรตุเกส มี 6 คะแนน และเข้ารอบต่อไปแน่นอนแล้ว ตามมาด้วย กานา มี 3 คะแนน ในอันดับ 2 เกาหลีใต้ มี 1 คะแนน ในอันดับ 3 เท่ากับ อุรุกวัย ที่มี 1 คะแนน รั้งอันดับสุดท้าย

นอกจากนี้ หากสรุปเงื่อนไขการเข้ารอบของแต่ละทีมในกลุ่ม H จะออกมาดังนี้

โปรตุเกส

-เข้ารอบเรียบร้อยแล้ว 100% และต้องการอีก 1 คะแนน เพื่อการันตีแชมป์กลุ่ม

กานา

-ต้องการ 3 คะแนน เพื่อการันตีเข้ารอบสุดท้ายอย่างแน่นอน

หากเสมอ

-ต้องลุ้นให้ เกาหลีใต้ ไม่ชนะโปรตุเกส จะเข้ารอบทันที หากเกาหลีใต้ชนะ โปรตุเกส จะต้องมาวัดประตูได้เสียเพื่อหาอันดับ 2 ของกลุ่ม

หากแพ้ ตกรอบทันที

เกาหลีใต้

-ต้องการ 3 คะแนน พร้อมเงื่อนไขต่อไปนี้

1.ลุ้นให้ กานา เสมอ/แพ้ อุรุกวัย เพื่อวัดประตูได้เสียกันเพื่อหาอันดับที่ 2 ของกลุ่ม

-หาก กานา ชนะ ตกรอบทันที

-หาก เกาหลีใต้ เสมอ/แพ้ ตกรอบทันที

อุรุกวัย

-ต้องการชัยชนะเหนือ กานา พร้อมเงื่อนไขต่อไปนี้

1.ต้องลุ้นให้ เกาหลีใต้ เสมอ/แพ้ โปรตุเกส เพื่อการันตีเข้ารอบ 100%

2.หากเสมอ/แพ้ ตกรอบทันที

เกมนัดต่อไปของทั้ง 2 กลุ่มจะแข่งขันในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 นี้

กลุ่ม H
22.00 น.

เกาหลีใต้-โปรตุเกส

กานา-อุรุกวัย

กลุ่ม G

02.00 น.

บราซิล-แคเมอรูน

เซอร์เบีย-สวิตเซอร์แลนด์

โปรแกรมฟุตบอลโลก ประจำวันที่ 29

โปรแกรม ฟุตบอลโลก 2022 ตารางบอลโลกวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน ดูถ่ายทอดสดช่องไหนบ้าง

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 วันนี้ถ่ายทอดสดช่องไหน โปรแกรมวันที่ 29 พฤศจิกายน 65 โดยที่มีทีมดังอย่าง “ทีมชาติเนเธอร์แลนด์”, “ทีมชาติเอกวาดอร์”, “ทีมชาติอังกฤษ” และ “ทีมชาติสหรัฐอเมริกา” ลงทำการแข่งขัน

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 วันนี้ถ่ายทอดสดช่องไหน โปรแกรมวันที่ 29 พ.ย. 2565 โดยที่วันนี้มีทีมดังอย่าง ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ทีมอันดับ 1 ร่วมของกลุ่มเอ ที่ก่อนเกมมี 4 คะแนนจาก 2 นัด จะลงสนามพบกับ ทีมชาติกาตาร์ ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 หรือนัดสุดท้ายของรอบนี้ ที่แพ้รวดสองนัดไม่มีคะแนน ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกันเป็นการเจอะกันระหว่าง เอกวาดอร์ ที่มีคะแนนและทำประตูพร้อมผลต่างประตูได้เสียพอๆกับ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ จะลงเล่นพบกับทีมชาติเซเนกัล ที่มี 3 คะแนน

ขณะที่ในกลุ่มบี ทีมชาติเวลส์ ที่ก่อนแข่งขันมี 1 คะแนน จากการลงสนาม 2 นัด จะพบกับ ทีมชาติอังกฤษ ทีมจ่าฝูงที่มี 4 คะแนน ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกันเป็นการเจอะกันระหว่าง ทีมชาติอิหร่าน ซึ่งก่อนเกมตุนไว้ 3 คะแนนจาก 2 นัด จะดวลกับ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่มี 2 คะแนน จากการเสมอทั้ง 2 นัดที่ผ่านมา

โปรแกรมฟุตบอลโลก ประจำวันที่ 29 พ.ย. 65

กลุ่ม A

เนเธอร์แลนด์ พบ กาตาร์ สนามอัล เบย์ท สเตเดียม เวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง CH8

กลุ่ม A

เอกวาดอร์ พบ เซเนกัล สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม เวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True4U, AMARIN TV

กลุ่ม B

เวลส์ พบ อังกฤษ สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม เวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง GMM 25

กลุ่ม B

อิหร่าน พบ สหรัฐอเมริกา สนามอัล ธูมามา สเตเดียม เวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True4U

ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022

“ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022” เนเธอร์แลนด์-กาตาร์ ดูบอลสดช่องไหน กี่โมง เช็คเลย

เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หลังอัศวินสีส้มตระเตรียมลงออกศึกกับเจ้าภาพนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มวันนี้

“โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022” วันที่ 29 พฤศจิกายน จะเป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม โดยจะลงเตะพร้อมกัน 2 คู่ของแต่ละกลุ่ม ซึ่งในกลุ่ม A จะมีการลงดวลแข้งกันระหว่างทีมกังหันลมสีส้ม “เนเธอร์แลนด์” กับเจ้าภาพ “กาตาร์”

เนเธอร์แลนด์-กาตาร์ จะเริ่มทำการแข่งขันในเวลา 22.00 น. ที่สนามอัล บายท์ สเตเดียม

แฟนฟุตบอลชาวไทยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง “True4U / AMARIN TV”

ผลงาน 2 นัดแรกของทั้ง 2 ทีม มี

เนเธอแลนด์ สามารถเอาชนะเซเนกัลไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ในนัดประเดินสนาม ก่อนที่จะเสมอเอกวดอร์ในนัดล่าสุด 1-1

กาตาร์ พ่ายแพ้ให้กับเอกวาดอร์ในนัดแรก 0-2 และแพ้ให้กับเซเนกัลไปอีก 1-3

ทั้งนี้จากผลงาน 2 นัดใน “ฟุตบอลโลก 2022” ที่ผ่านมาทำให้เนเธอร์แลนด์ส มี 4 คะแนน แต่ก็ยังไม่ยืนยันการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยเหตุนี้ในนัดจึงจำเป็นที่จะต้องเก็บแต้มให้ได้ ไม่ว่าจะชนะหรือเมอ ถ้าหากชนะก็จะยืนยันการเข้ารอบแน่นอน

ส่วนเจ้าภาพ กาตาร์ ตกรอบไปเป็นระเบียบอย่างเป็นทางการ โดยยังไม่สามารถเก็บได้หากแม้แต่คะแนนเดียว การลงเล่นนัดนี้จะเป็นการส่งท้าย และเชื่อว่านักเตะทุกคนอาจต้องทำเต็มที่เพื่อไว้ลายในฐานนะเจ้าภาพ และเจ้าบ้าน

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของเนเธอร์แลนด์

25/11/22 เสมอ เอกวาดอร์ 1-1 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก 2022

21/11/22 ชนะ เซเนกัล 2-0 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก 2022

25/09/22 ชนะ เบลเยียม 1-0 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

22/09/22 ชนะ โปแลนด์ 2-0 (เยือน) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

14/06/22 ชนะ เวลส์ 3-2 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก